กวางโจว ประเทศจีน, 15 ก.ย. 2566 – MINISO Group Holding Limited (NYSE: MNSO; HKEX: 9896) (“MINISO”, “MINISO Group” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกมูลค่าทั่วโลกที่นําเสนอสินค้าลายไซน์ที่หลากหลายในราคาย่อมเยา มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้ประกาศในวันนี้ว่า ตามหลังการหมดอายุของโครงการซื้อหุ้นคืนที่บริษัทนํามาใช้ในเดือนกันยายน 2565 คณะกรรมการบริษัท (“คณะกรรมการ”) ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 (“โครงการซื้อหุ้นคืนปี 2566”) ซึ่งภายใต้โครงการนี้ บริษัทอาจซื้อหุ้นสามัญที่หมุนเวียนอยู่และ/หรือใบสําคัญแสดงสิทธิอเมริกันที่แทนหุ้นสามัญของบริษัท (เรียกรวมว่า “หุ้น”) มูลค่าสูงสุด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่โครงการซื้อหุ้นคืนปี 2566 ได้รับการอนุมัติ บริษัทคาดว่าจะจัดหาเงินทุนเพื่อซื้อหุ้นคืนภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนปี 2566 จากเงินสดส่วนเกินในงบดุลของบริษัท
คณะกรรมการเชื่อว่าการซื้อหุ้นคืนในสภาวะปัจจุบันจะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของบริษัทในมุมมองและแนวโน้มทางธุรกิจในอนาคต และจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท (“ผู้ถือหุ้น”) ในที่สุด
การซื้อหุ้นคืนที่เสนอของบริษัทภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนปี 2566 อาจดําเนินการตามราคาตลาดที่มีอยู่เป็นครั้งคราว ผ่านการเจรจาต่อรองส่วนตัว การซื้อขายกลุ่ม และ/หรือผ่านวิธีการอื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและนโยบายการซื้อขายภายในของบริษัท
บริษัทจะดําเนินการซื้อหุ้นคืนโดยใช้อํานาจภายใต้มติที่จะให้หรือให้แล้วแก่คณะกรรมการตามมติของผู้ถือหุ้นที่ผ่านในการประชุมสามัญประจําปีของบริษัทแต่ละปีเพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% ของจํานวนหุ้นที่ออกทั้งหมด ณ วันประชุมสามัญประจําปีนั้นๆ (“มติซื้อหุ้นคืน”) ซึ่งแต่ละมติจะหมดอายุเมื่อถึงเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ก่อน: (ก) การประชุมสามัญประจําปีครั้งถัดไปของบริษัทเสร็จสิ้นลง; (ข) กําหนดเวลาที่บริษัทจะต้องจัดประชุมสามัญประจําปีครั้งถัดไปตามข้อบังคับและหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องสิ้นสุดลง; และ (ค) วันที่อํานาจตามมติธรรมดาที่อนุมัติมติซื้อหุ้นคืนถูกเพิกถอนหรือแก้ไขโดยมติธรรมดาของผู้ถือหุ้น
สําหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 จนถึงวันจัดประชุมสามัญประจําปีครั้งต่อไปของบริษัทก่อนสิ้นปี 2566 บริษัทจะซื้อหุ้นคืนภายใต้อํานาจของมติซื้อหุ้นคืนที่ผู้ถือหุ้นให้ไว้เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 และสําหรับช่วงเวลาต่อๆ มา ภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนปี 2566 บริษัทจะซื้อหุ้นคืนภายใต้มติซื้อหุ้นคืนที่ผู้ถือหุ้นจะให้ในการประชุมสามัญประจําปีครั้งต่อไป โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นและเงื่อนไขมติทั่วไปตามที