ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้นําตลาดที่ปลอดภัยมาพิจารณาอีกครั้ง มีการเน้นถึงน้ํามันดิบและทองคําโดยเฉพาะ
สัปดาห์ที่แล้ว WTI น้ํามันดิบเพิ่มขึ้นอย่างน่าสังเกต 6% จากวันศุกร์ถึงวันศุกร์ แม้ว่าจะมีการลดลงของจํานวนสัญญาซื้อขายทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทองคําเดือนธันวาคม COMEX เพิ่มขึ้น 5.5% พร้อมกับจํานวนสัญญาซื้อขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม องค์กรปาเลสไตน์ฮามาสเริ่มการโจมตีต่ออิสราเอล นําไปสู่ความขัดแย้งที่ยังคงดําเนินไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ภายใต้สถานการณ์มนุษยธรรมและความกังวลของโลก บทความนี้จะศึกษาว่าตลาดปลอดภัยดั้งเดิมเหล่านี้ตอบสนองอย่างไร และอนาคตอาจเป็นอย่างไร
ตลาดปลอดภัยสามารถพิจารณาได้สองทางคือ เป็นการป้องกันความเสี่ยงในยามตลาดวุ่นวาย เพื่อปกป้องการลงทุนในภาคส่วนอื่นที่มีความเสี่ยงหรือเป็นโอกาสการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ ในตลาดโลก “สามกษัตริย์แห่งสินค้า” – ข้าวโพด ถั่วเหลือง ทองคํา และน้ํามันดิบ – มักจะกลายเป็นตลาดปลอดภัยหรือโอกาสการลงทุนในสถานการณ์ความไม่สงบของโลกต่างๆ
ข้าวโพดเป็นศูนย์กลางเมื่ออากาศทําลายผลผลิตในสหรัฐอเมริกา ถั่วเหลืองเป็นจุดสนใจเมื่ออากาศทําลายผลผลิตในอเมริกาใต้ ทองคําเป็นทางเลือกดั้งเดิมสําหรับนักลงทุนในยามความไม่สงบของโลก ส่วนน้ํามันดิบในรอบ 5 ทศวรรษผ่านมาเป็นตลาดปลอดภัยเนื่องจากบทบาทสําคัญต่อเศรษฐกิจโลก แต่ความไม่แน่นอนของตะวันออกกลางซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ํามันหลักยังคงเป็นความเสี่ยง
กระแสสนทนาในวันนี้เน้นถึงว่าทองคําหรือน้ํามันดิบเป็นตลาดปลอดภัยที่ดีกว่ากันในสถานการณ์อิสราเอล-กาซา ปฏิกิริยาเบื้องต้นบ่งชี้ว่าน้ํามันดิบอาจได้รับความสนใจมากกว่าเนื่องจากความสําคัญต่อเศรษฐกิจโลก ณ วันที่ 5 ตุลาคม สัญญาน้ํามันดิบ WTI (CLX23) ปิดที่ 82.79 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.4% จากสัปดาห์ก่อน สัญญาระยะใกล้พุ่งสูงสุดที่ 87.83 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 6%
แม้วัดจากราคา WTI จะแสดงว่าเป็นตลาดปลอดภัย แต่ก็มีความสงสัยเนื่องจากจํานวนสัญญาซื้อขายทั้งหมดลดลงจากสัปดาห์หนึ่งไปสัปดาห์หนึ่ง
สําหรับทองคํา สัญญาเดือนธันวาคม (GCZ23) ปิดสัปดาห์นี้ด้วยราคา 1,946.20 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% แม้ว่าราคาของ WTI จะเหนือกว่าทองคําเล็กน้อย แต่ปัจจัยอื่นบ่งชี้ว่าทองคําเป็นตลาดปลอดภัยที่นิยมมากกว่า เนื่องจากราคาทองคําเพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์พร้อมกับจํานวนสัญญาซื้อขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นด้วย
สรุปได้ว่าการตัดสินใจว่าตลาดปลอดภัยที่ดีกว่ากันในภาวะโลกไม่สงบนั้นเป็นเรื่องยาก ผู้ที่ยอมรับความผันผวนมากกว่าอาจเลือกน้ํามันดิบ ในขณะที่ผู้ที่ต้องการความปลอ