ส่งร่างเหยื่อรถไฟชน 8 ศพชันสูตร ลูกสาวเล่านาทีบีบหัวใจ โทรหาพ่อแต่คนอื่นรับสาย

ส่งร่างเหยื่อรถไฟชน 8 ศพชันสูตร ลูกสาวเล่านาทีบีบหัวใจ โทรหาพ่อแต่คนอื่นรับสาย แจ้งข่าวร้ายสุดช็อก

บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๋งได้นำศพผู้เสียชีวิตผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 รายจากอุบัติเหตุรถไฟชนรถกระบะ มารวมอยู่เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนนำร่างส่งไปยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเในการผ่าชันสูตรพลิกศพ ซึ่งมีญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาทำเอกสารระบุตัวตนและขอรับศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นจำนวนมากซึ่ง ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน น.ส.อรอนงค์ อายุ 26 ปี ลูกสาวของ นายสุนทร บัวทอง อายุ 55 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ได้เดินทางออกจากบ้านมากับกลุ่มคนอื่นที่จะรับจ้างไปจับปลา และหลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ที่พ่อออกไปจากบ้าน ประมาณตี 5 ได้มีคนมาเรียกตนเองที่บ้านให้โทรหาพ่อ เพราะเกิดอุบัติเหตุกับรถกระบะที่พ่อนั่งไปได้ชนกับรถไฟ ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปหาพ่อแต่ก็ไม่มีคนรับ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับโทรศัพท์ของพ่อตนเอง จึงได้ถามว่าเจ้าของโทรศัพท์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ถามชื่อว่าพ่อตัวเองชื่ออะไรและเมื่อตนเองบอกว่าชื่อสุนทร กู้ภัยได้ตอบกลับมาว่าได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้สึกช็อกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อคืนนี้ยังพูดคุยกับพ่อเป็นปกติ ไม่มีลางบอกเหตุว่าพ่อจะไปเกิดเหตุร้าย ซึ่งพ่อก็ยังชักชวนให้แฟนตนไปด้วย แต่แฟนไม่ว่างจึงไม่ได้ไปด้วยกันกับพ่อ หากไปด้วยก็อาจจะเกิดอันตรายไปอีกหนึ่งคน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ตนเองจะเดินทางไปรับศพพ่อที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา  

ขณะที่ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมือง ฉะเชิงเทรา เปิดเผยความคืบหน้าอุบัติเหตุว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นในที่เกิดเหตุและเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตส่งไปทำการชันสูตรที่ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พร้อมเปิดเส้นทางรถไฟให้รถสัญจรผ่านตามปกติแล้ว

ส่วนทางคดีขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำคนขับและพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นที่เกิดเหตุเป็นทางลักข้าม ไม่มีป้ายกั้น ส่วนสัญญาณไฟมีแต่ทราบว่าเสียส่วนรถไฟจะเปิดหวีดเตือนหรือไม่ รวมถึงจะเกิดจากความประมาทของคนขับหรือไม่ต้องรอการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป