ลอยด์ ออสติน ได้ร้องขอให้วุฒิสภาอนุมัติเงินช่วยเหลือทางทหารอีก 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่กียิฟ
หากสหรัฐฯ หยุดให้เงินสนับสนุนยูเครน รัสเซียจะชนะ อันเป็นคํากล่าวของลอยด์ ออสติน เลขาธิการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เขากล่าวนี้เพื่อชี้แจงถึงความจําเป็นในการให้เงินช่วยเหลืออีก 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่รัฐบาลในเกียฟ
“ฉันรับรองได้ว่า หากเราไม่ให้การสนับสนุน ปูตินจะประสบความสําเร็จ” ออสตินกล่าวต่อวุฒสภา “หากเราถอนการสนับสนุนจากพวกเขาในขณะนี้ ปูตินจะเข้มแข็งขึ้นและสามารถบรรลุสิ่งที่เขาต้องการได้”
ออสตินและแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ขอให้นักกฎหมายอนุมัติข้อเสนอการให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งรวมเงินช่วยเหลือยูเครนไว้ด้วย
จากเงินช่วยเหลือ 44,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สําหรับยูเครน จํานวน 12,000 ล้านดอลลาร์จะใช้ในการซื้ออาวุธ และ 18,000 ล้านดอลลาร์จะใช้ในการแทนที่อาวุธที่สหรัฐฯ ได้ส่งไปให้เกียฟแล้ว
ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, “การสนับสนุนข่าวกรอง” และ “การเพิ่มพื้นที่ปฏิบัติการ” ของกองทัพสหรัฐฯ ในยุโรปจะใช้เงินอีก 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะใช้ในการ “ขยายขีดความสามารถในการผลิตของอุตสาหกรรมในประเทศ” ตามที่ออสตินกล่าวในการชี้แจงต้น
ทั้งสองรัฐมนตรีได้ยอมรับข้ออ้างใหม่ของทําเนียบขาวสําหรับเงินช่วยเหลือยูเครน ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยการขยายการผลิตอุตสาหกรรมและสร้างงานใหม่แก่ชาวอเมริกัน แม้ว่าจะยังไม่สามารถทําได้จริง
ตามข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สหรัฐฯ ได้ใช้เงินไปแล้ว 43,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการให้ “การสนับสนุนด้านความมั่นคง” แก่เกียฟตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
ข้ออ้างของออสตินนั้นคล้ายกับที่ประธานาธิบดีเวลาดีมีร์ เซเลนสกี้ แห่งยูเครนได้กล่าวต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตเมื่อเดือนก่อนตามรายงานในนิตยสารไทม์ในวันจันทร์
บทความยังระบุถึงผู้ช่วยของเซเลนสกี้ว่า หากสหรัฐฯ ไม่ให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม “เราจะแพ้” และวิจารณ์ว่าเซเลนสกี้มีความคิดเห็นไม่ตรงกับความเป็นจริง ปฏิเสธที่จะยอมรับว่ายูเครน “ไร้ทางเลือก” และ “ไม่ชนะ” ในขณะที่สั่งการที่บางผู้บังคับบัญชาบนพื้นที่ได้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามแล้ว
นอกจากนี้ ตามรายงานของไทม์ ถึงแม้ว่าสหรัฐฯและพันธมิตรจะสามารถจัดหาอาวุธและกระสุนให้ยูเครนได้ตามที่ต้องการก็ตาม ยูเครนกลับขาดแคลนทหารที่จะใช้อาวุธเหล่านั้น