พบแล้ว ร่างหนุ่มชาวญี่ปุ่นจมน้ำทะเลสูญหาย ไม่ถึง 10 นาที หลังหน่วยซีลมาช่วยค้นหา ภรรยาเผยแต่งกันมา 13 ปี เพิ่งมาเขาหลักเป็นครั้งแรก
จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสามี-ภรรยาชาวญี่ปุ่นลงเล่นน้ำทะเลหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก่อนจมน้ำหายไปเมื่อช่วงเช้า ซึ่งพนักงานของโรงแรมได้ทำการช่วยชีวิตภรรยาไว้ได้ แต่ตัวสามีถูกคลื่นกลืนหายไป
- 2 นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น จมทะเลพังงา พนักงาน รร. ช่วยเมียได้คนเดียว สามีหายไปกับคลื่น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาทางหน่วยซีล ฐานทัพเรือพังงา นำโดย ร.อ.พินิจ ทิพย์รัตนมงคล หน.ชปพ.กปก.ทรภ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ จำนวน 11 นาย พร้อมเรือยาง โดยหน่วยซีลจำนวน 4 นายพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำได้ดำลงเพื่อค้นหาศพชาวญี่ปุ่น
ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ศพของ Mr.Satoshi Sato อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ได้ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำใกล้ชายหาด และห่างจากจุดที่หน่วยซีลดำน้ำลงไปประมาณ 100 เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เชือกเข้าไปลากศพของนักท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน รีบพาขึ้นฝั่งท่ามกลางกระแสคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง
โดยสภาพศพนุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ที่ปากและจมูกมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลาโดยแพทย์เวร จากศูนย์การแพทย์ เขาหลัก ฮับอันดามัน ตรวจสอบเบื้องต้นแพทย์ระบุเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำมาประมาณ 4 ชั่วโมง
จากการสอบถาม Mrs.Junto Sato อายุ 44 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า แต่งงานกันมาแล้ว 13 ปี ตนและสามีอาศัยอยู่ที่ประเทศไต้หวัน และได้วางแผนกับเพื่อนๆ รวม 6 คน เดินทางมาพักผ่อนที่เขาหลัก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาท่องเที่ยวที่เขาหลัก จากนั้นกู้ภัยเขาหลักได้นำศพของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพ
ด้าน นายพิสิฐ เส็งกิ่ง นายกสมาคมมัคคุเทศน์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเครือข่ายว่ามีนักท่องเที่ยวจมน้ำที่โรงแรมดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่ทันที และได้เจอกับภรรยาของผู้เสียชีวิต ทราบว่าได้ลงเล่นน้ำบริเวณหาดทีหน้าโรงแรม สามีโดนน้ำดูดลงไปจึงไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ ส่วนภรรยารอดชีวิต ซึ่งทางโรงแรมได้ประชาสัมพันธ์เตือนแล้วว่าห้ามลงเล่นน้ำบริเวณชายหาด โดยนักท่องเที่ยวมาด้วยกันทั้งหมด 6 คน เป็นชาวญี่ปุ่น
ทั้งนี้ การช่วยเหลือในครั้งนี้ได้มีการบูรณาการทุกหน่วยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ หน่วยล่าสุดที่เข้ามาทำการช่วยเหลือคือหน่วยซีลของฐานทัพเรือพังงา ช่วงนี้เป็นช่วงที่หมดมรสุมแล้วเป็นช่วงที่พายุเข้ามาอีก 1 ลูก จึงทำให้คลื่นลมแรงและทำให้เกิดเหตุดังกล่าว