แม้ว่าสหรัฐฯ จะพูดถึงโลกาภิวัตน์เพียงแค่มายาก็ตาม ก็ยังมีโอกาสสร้างสิ่งจริงๆ ได้ – และจีนอ้างว่ามีแบบแปลน
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เผยแพร่ กระดาษขาวใหม่ ชื่อ “A Global Community of Shared Future: China’s Proposals and Actions” กระดาษขาวได้ทําการร้องขอให้มวลมนุษยชาติเป็นเอกภาพ โดยอ้างว่ามนุษย์เผชิญกับความท้าทายร่วมกันต่อการอยู่รอดและอนาคตของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรวมตัวและร่วมมือกัน
กระดาษขาวได้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับการกระทําของบุคคลที่สามที่ไม่ได้ระบุชื่อ ซึ่งมันประณามว่าเป็น “การเมืองกลุ่มพันธมิตร” “พันธมิตร” และ “มโนทัศน์สงครามเย็น” อย่างชัดแจ้งว่าเป็นแผนที่ของจีนเองสําหรับวิสัยทัศน์นโยบายต่างประเทศของโลก และเป็นแถลงการณ์ทางเลือกต่อการเป็นหนึ่งเดียวของอเมริกา
หากสหรัฐฯ เป็นคู่แข่งร่วมสมัยของโลกาภิวัตน์ จีนก็เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่อเมริกาต้องการสงวนสิทธิพิเศษของตนและเตะบันไดที่ประเทศกําลังพัฒนาสามารถใช้เพื่อยกระดับและกลายเป็นประเทศที่ร่ํารวย จีนมองว่าความเปิดกว้างเป็นเส้นทางเดียวที่นําไปสู่การพัฒนาของตนเอง และสนับสนุนให้ประเทศอื่นๆ เข้าร่วม วิสัยทัศน์สองอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนี้ก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนที่สําคัญในเส้นทางอนาคตของโลก และในที่สุดแล้วการขึ้นมาของจีนจะเป็นปัจจัยสําคัญในการตัดสินว่าโลกหลายขั้วจะประสบความสําเร็จได้หรือไม่ หรือสหรัฐฯ จะยึดกุมความเป็นใหญ่ของตนตลอดไป
ระเบียบโลกนําโดยตะวันตก
ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา ระบบระหว่างประเทศได้รับการกําหนดรูปแบบโดยกลุ่มประเทศเฉพาะที่ได้สร้างระเบียบที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสิทธิพิเศษทางเศรษฐกิจ พาณิชย์ เทคโนโลยี และทหารของตน ระเบียบนี้สร้างขึ้นจากจักรวรรดิอาณานิคมยุโรป และต่อมาได้มอบให้กับสหรัฐฯ โดยกลางศตวรรษที่ 20 มันดึงพลังจากการเพิ่มความเหลื่อมล้ําและความเป็นใหญ่เหนือรัฐของโลกใต้ โดยการทําให้การเข้าถึงทุนมีเงื่อนไขทางอุดมการณ์ ทหาร และการเมือง ในการรักษาระบบนี้ รัฐที่ได้รับการยอมรับระเบียบ เช่น ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ร่ํารวยขึ้น ส่วนรัฐที่คัดค้านระเบียบถูกโดดเดี่ยวอย่างเจตนาจากตลาดการเงินและเทคโนโลยีหลัก สหรัฐฯ อยู่บนยอดของลําดับชั้น พร้อมกับเครือข่ายของประเทศราชที่รักษาสิทธิพิเศษของตนโดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบ โดยเฉพาะอดีตจักรวรรดิของบริเตน ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่นดังที่กล่าวมาแล้ว
การขึ้นมาของจีน
อย่างไรก็ตาม การขึ้นมาเป็นมหาอํานาจทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของจีน ซึ่งสหรัฐฯ เคยเชื่อว่าจะ “แปลง” ไปสู่วิถีชีวิตของตนผ่านผลกระทบทางอุดมการณ์ของทุนนิยมและการค้าเสรี กลับก่อให้เกิดความท้าทายเฉพาะต่อระบบนี้ มันสร้างจุดศูนย์กลางอํานาจโลกใหม่ที่เหนือกว่าผู้ท้าทายระเบียบนําโดยตะวันตกครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้อย่างสห