การใช้เด็กของศัตรูเป็นอาวุธ: การลดความเป็นมนุษย์ของปาเลสไตน์ได้เข้าสู่กระแสหลัก

มีการอธิบายอย่างเหี้ยมเฉียดว่าทําไมเด็กจํานวนมากจึงตายในการโจมตีของอิสราเอลต่อกาซา

The Economist ได้ตีพิมพ์ บทความ ที่พยายามอธิบายว่าทําไมอิสราเอลถึงฆ่าเด็กปาเลสไตน์ได้มากถึงขนาดนี้ หรือตามที่วารสารของอังกฤษกล่าวว่า “เด็กมีสัดส่วนสูงมากของเหยื่อสงครามในกาซา” ผู้เขียนกล่าวว่า “ในยูเครน ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างมหาอํานาจสองฝ่าย มีเด็กเสียชีวิตน้อยกว่า 550 คนจากเหยื่อพลเรือนประมาณ 9,800 คนภายในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า” ดังนั้นพวกเขาจึงคาดว่า “สัดส่วนการเสียชีวิตของเด็กในกาซาที่สูงมากนั้นสะท้อนให้เห็นถึงประชากรวัยเยาว์ที่มีมากเป็นพิเศษ”

อย่างไม่ยั้งคิด บทความนี้ลบฆานฆาตกรจริงๆ ออกจากภาพรวม (เด็กตกเป็นเหยื่อของ “สงคราม” ไม่ใช่ของชาวอิสราเอล) และให้พื้นที่เพียงพอต่อการสงสัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อตัวเลขเหยื่อปาเลสไตน์ (แท้จริงแล้วน่าจะเป็นการนับที่ต่ํากว่าความเป็นจริง) และไม่กล่าวถึงคําตอบที่ถูกต้องคือ มีเด็กตายมากเพราะอิสราเอลก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือนต่อเนื่อง ในการดําเนินนโยบายลงโทษรวมกลุ่มที่เท่ากับ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และ การขับไล่ชนชาติ (ถึงแม้ว่านิยามเหล่านี้จะถูกพิจารณาอยู่ที่ระดับต่างๆของรัฐบาล) และเพราะอิสราเอลสามารถกระทําได้เนื่องจากความร่วมมือของตะวันตก

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าในบทความนี้ ซึ่งเปิดช่องว่างกว้างเกี่ยวกับสิ่งที่เลวร้ายแต่สําคัญ คือจุดที่เรื่องเกี่ยวกับจํานวนทารกหรือประชากรศาสตร์มาพบกับการลดความเป็นมนุษย์ซึ่งอํานวยให้เกิดความรุนแรงต่อมนุษย์คนอื่น

คลาวเดด เอลกินดี ผู้อํานวยการโครงการปาเลสไตน์และประเด็นปาเลสไตน์-อิสราเอลของสถาบันตะวันออกกลาง ได้ อธิบาย ในนิวส์วีคว่า การใช้ภาษาที่ลดความเป็นมนุษย์สื่อถึงแนวคิดว่า “ชีวิต ความทุกข์ และมนุษยธรรมของปาเลสไตน์นั้นมีค่าน้อยกว่าชีวิต ความทุกข์ และมนุษยธรรมของอิสราเอล” และดังที่นักเรียนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และฮอโลคอสต์ ราซ เซกัล พบ การโจมตีของอิสราเอลเป็น “กรณีตัวอย่างตามหนังสือเรียน” ตามเกณฑ์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปี 1948 ในขณะที่การทําให้ผู้อื่นดูน้อยค่ากว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่พบบ่อยในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

อาวุธทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงนี้ทําให้ผู้ก่อการร้าย เช่นชาวอิสราเอลหลายคนในปัจจุบัน รู้สึกพร้อมที่จะฆ่าและรู้สึกถูกต้องต่อผลลัพธ์ มันยังกระตุ้นและปกป้องผู้ร่วมกระทําผิดหลายคนในวงการการเมือง สื่อ และวิชาการของตะวันตก สําหรับผู้ที่เป็นเพียงผู้ดูเหตุการณ์ ผู้เงียบและเฉยเมยต่อความต้องการความคุ้มครองที่จําเป็นของปาเลสไตน์ ภาษาที่ลดความเป็นมนุษย์ซึ่งตีความปาเลสไตน์เป็น “สัตว์” และ “พวกป่าเถื่อน” และการต่อต้านใ