กระบะพุ่งชน จยย.พ่วงข้าง พ่อแม่ลูก 3 ศพ ดับอนาถใต้ท้องรถ อ้างมืดไม่เห็นไฟท้าย

กระบะพุ่งชน จยย.พ่วงข้าง พ่อแม่ลูก 3 ศพ ดับอนาถใต้ท้องรถ ลากไปไกล 200 เมตร คนขับอ้างไม่เห็นไฟท้าย เบรกไม่ทันจริงๆ

เมื่อเวลา 22.00 น.  (10 ก.ย.65) ร.ต.ท.สุชาติ ผิวผ่อง ร้อยเวร สภ.กร่ำ ระยอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนรถ จยย.พ่วงข้าง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ คิดคาตายท้องรถ เหตุเกิดบริเวณบ้านเนินฆ้อ ถนนแกลงกร่ำ ม.5 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.แกลง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ สีเทา จอดอยู่กลางถนน จึงเข้าไปตรวจสอบพบด้านหน้ารถมีร่องรอยชนจนพังยับ ใต้ท้องรถพบรถจยย.พ่วงข้างถูกทับจนพังทั้งคันติดคาอยู่ใต้ท้อง ตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ 3 ศพ สถาพร่างแหลกเหลว เป็น ผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 1 คน และ เด็กผู้ชาย1คน จึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสามคนออกมา ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนจะนำศพส่งพิสูจน์ รพ.แกลง สำหรับผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 คน ทราบต่อมาว่าเป็นพ่อแม่ลูกกัน ประกอบด้วย นายบึงสง อายุ 25 ปี น.ส.รสสุคนธ์ อายุ 33 ปี และ ด.ช.มีตัง อายุ 1 ขวบเศษ

ส่วนคนขับรถยนต์กระบะที่พุ่งชน ยืนรออยู่ในจุดเกิดเหตุ เป็นชาย อายุ 42 ปี ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถกระบะกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุได้แซงรถยนต์ขึ้นมา พอหักเลี้ยวเข้าเลน ได้พุ่งชนรถจยย.พ่วงข้างที่ขี่อยู่ด้านหน้า โดยที่ไม่เห็นไฟท้าย จึงไม่สามารถเบรกได้ทัน พุ่งชนท้ายเต็มแรง พยายามเหยียบเบรกแล้วแต่เนื่องจากรถวิ่งมาด้วยความเร็ว จึงเหยียบทับรถจยย.และลากทั้งรถและคนที่นั่งบนรถไปจนกระทั่งรถหยุด ลงมาดูก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ด้านนางมะลิ มารดาของ น.ส.รสสุคนธ์ ผู้เสียชีวิต ที่ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พอพบว่าลูกสาวลูกเขยและหลานชายเสียชีวิต ก็ถึงกับช็อก หลังตั้งสติได้ เปิดเผยว่า ทั้งสามคนได้ไปหาเพื่อนที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล คงกำลังจะขี่รถกลับบ้าน ซึ่งใกล้จะถึงบ้านแล้ว แต่มาถูกชนเสียก่อน เสียใจมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย ขอให้ลูกและหลานทั้งสามคนไปสู่สุคติ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุ และสอบสวนคนขับรถกระบะไปสอบสวน ซึ่งรถยนต์คันที่ชนได้ทำประกันประเภท 1 ไว้ จึงให้เจ้าของรถติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัว นายวรพจน์ คนขับรถกระบะไปสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป