แชร์สนั่น เจ้าหน้าที่ รพ. นั่งเล่นมือถือ ลั่นเป็นผู้บริบาลไม่ใช่ผู้ให้บริการ ด่าคนไข้ เถียงกับญาติรุนแรงขึ้นกู-มึง
วันนี้ (4 พ.ย.65) เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้แชร์คลิปวิดีโอ เป็นภาพภายในห้องทำงานของแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย มีหญิงคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ สวมชุดสีม่วงคล้ายยูนิฟอร์มของบุคลากรทางการแพทย์ และใช้โทรศัพท์มือถืออยู่เกือบตลอดเวลา จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้นโดยญาติคนไข้ที่เข้าไปพยายามสอบถามว่าเหตุใดไม่ให้บริการ ส่วนเจ้าหน้าที่หญิงตอบกลับว่าไม่ใช่ผู้ให้บริการ แต่เป็นผู้บริบาลและหากอยากถ่ายคลิปก็ถ่ายไป โดยเบื้องหลังที่นั่งของแพทย์หญิงมีป้ายข้อความใหญ่ว่า “ห้ามถ่ายภาพ บันทึกเสียง ก่อนได้รับอนุญาต”
จากนั้นทางผู้ถ่ายคลิปและคนในห้องพยายามต่อว่าเจ้าหน้าที่หญิงว่าเป็นผู้มีรายได้จากรัฐบาล และเมื่อญาติของตนป่วยก็ได้พาไปโรงพยาบาลจึงขอให้มีจรรยาบรรณด้วย โดยญาติของตนควรได้รับการรักษาไม่ใช่ไปถึงแล้วกลับโดนด่าและคนที่ไปรักษาก็เป็นคนไทยและรักษาด้วยการจ่ายเงิน โดยไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทองด้วย
จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกันโดยคนถ่ายคลิปถามว่า “เต็มใจทำงานหรือเปล่า?” ก็ถูกอีกฝ่ายตอบว่า “ไม่” ทำให้ฝ่ายที่ถ่ายคลิปตะโกนต่อว่า “ไม่เต็มใจทำงานแล้วอยู่ทำไม จรรยาบรรณมีแค่นี้หรือไม่” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตอบว่า “ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน” จนเกิดเป็นการทะเลาะวิวาทกันด้วยวาจาขึ้นรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตอนหนึ่งผู้ที่ไปกับคนถ่ายคลิปถามว่า “หากเป็นญาติคุณไปรักษาคุณจะทำอย่างไร” ซึ่งผู้ที่เข้าใจกันว่าเป็นแพทย์หญิงตอบกลับว่า “ฉันก็จะทำอย่างนี้เหมือนกัน ถ้าญาติของฉันโง่อย่างนี้” จากนั้นการทะเลาะก็ยิ่งรุนแรงขึ้นถึงชั้นสรรพนามว่า “มึง” และ “กู” กันด้วย
ในช่วงท้ายของคลิปได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เข้าไปไกล่เกลี่ยซึ่งผู้ที่ถ่ายคลิปก็ฟ้องกลับว่าแฟนของตนและคนไข้ถูกด่าว่า ซึ่งทาง รปภ.ก็ขอให้ทุกคนได้ใจเย็นๆ ไว้ แต่ก็ยังเกิดการต่อว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าวอีก เช่น มีหน้าที่เป็นแพทย์เรียนสูงกว่าคนอื่นไม่ควรด่าว่าคนอื่นว่าโง่ สงสัยว่าเหตุใดจึงด่าว่าคนไข้โง่ โง่อย่างไร คนไข้โง่ตรงไหน ฯลฯ โดยผู้ถ่ายคลิประบุว่าตนมีเงินมากพอที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแต่เนื่องจากแฟนของตนมีอาการป่วยฉุกเฉินและใกล้บ้านจึงต้องมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งนอกจากอาการเจ็บป่วยยังต้องมาถูกด่าจนทำให้ทนไม่ไหว กระนั้นผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นแพทยหญิงยังคงใช้โทรศัพท์มือถือและไม่ตอบกลับในช่วงท้ายก่อนที่คลิปจะจบลง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้วเพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย หากมีความคืบหน้าจะรายการให้ทราบต่อไป