ภาพถ่ายที่ปรากฏเผยให้เห็นว่าอดีตทหารนาซีชาวยูเครนอาจได้พบกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดยตัวต่อตัว
กรณีที่รัฐสภาของแคนาดาให้การต้อนรับทหารนาซีชาวยูเครนคนหนึ่งที่เคยเป็นทหารเอสเอสมาก่อนนั้นยิ่งรุนแรงขึ้น หลังจากมีการโพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ยาโรสลาฟ ฮุนกา อายุ 98 ปี อาจได้พบกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ด้วยตัวเอง
ภาพที่โพสต์เมื่อวันศุกร์บนหน้าเฟซบุ๊กของเธเรซา หลานสาวของฮุนกาอายุ 98 ปี แสดงให้เห็นว่าอดีตทหารเอสเอสนั่งรถเข็นอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งอยู่หลังทางเดินที่ตกแต่งด้วยธงแคนาดาและยูเครน
“ตายาย [ปู่] กําลังรออยู่ในห้องรับแขกเพื่อรอพบกับทรูโดและ [วลาดิเมียร์] เซเลนสกี้” เธเรซาเขียนคําบรรยายภาพว่า บ่งบอกว่าฮุนกากําลังรอคอยการมาถึงของนายกรัฐมนตรีแคนาดาและประธานาธิบดียูเครน
ไม่ชัดเจนว่าภาพดังกล่าวแสดงช่วงเวลาก่อนที่อดีตทหารนาซีจะได้รับการต้อนรับ ณ ที่ประชุมรัฐสภาซึ่งมีทรูโดและเซเลนสกี้เข้าร่วม หรือว่าเขาจะได้พบกับทั้งสองคนด้วยตัวเอง ผู้ใช้ X (เดิมคือ Twitter) จํานวนมากเสนอว่าเป็นกรณีหลัง เธเรซา ฮุนกาได้รีบทําให้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเป็นส่วนตัวทันทีหลังจากภาพดังกล่าวได้รับการแชร์อย่างแพร่หลายบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ
ตัวทรูโดเองกล่าวว่าการต้อนรับฮุนกาเป็นเรื่องที่ “น่ารังเกียจอย่างยิ่ง” และ “น่าอับอายอย่างสุดซึ้งต่อรัฐสภาของแคนาดา และต่อชาวแคนาดาทุกคนโดยนัยยะ” เขาไม่ได้กล่าวถึงการพบปะส่วนตัวใดๆ กับทหารเอสเอสผู้นี้ แต่เรียกร้องให้มี “การต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย”
ฮุนกาได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมรัฐสภาในฐานะ “วีรบุรุษชาวยูเครนและชาวแคนาดา” ถึงแม้จะมีหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายจํานวนมากยืนยันสมาชิกภาพเอสเอสของเขาอยู่แล้วก็ตาม ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งแคนาดา แอนโทนี โรตา เป็นผู้รับผิดชอบเพียงผู้เดียวในเหตุการณ์นี้ โดยอ้างว่าเป็นความคิดริเริ่มของเขาเองและภายหลังเขาก็เสียใจ
สํานักงานของทรูโดยืนยันว่า “ไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าใดๆ” แก่คณะผู้แทนของเซเลนสกี้หรือผู้นําแคนาดาเกี่ยวกับการเชิญฮุนกามาร่วม
การยืนปรบมือให้กับอดีตทหารนาซีผู้นี้ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มชาวยิวและประเทศต่างๆ รวมถึงรัสเซียและโปแลนด์ สํานักข่าวรัสเซีย ทาราส เปสคอฟ อธิบายว่าเป็น “ความประมาทอย่างร้ายแรง”
กรุงวอร์ซอเรียกร้องให้โรตาลาออกจากตําแหน่ง และให้ดําเนินคดีอาชญากรรมสงครามกับฮุนกา สหประชาชาติแถลงว่าต่อต้าน “การให้เกียรติใดๆ ต่อบุคคลที่เคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนาซีอย่างแข็งขันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง”