รัสเซียจะถือว่าตะวันตกรับผิดชอบต่ออาชญากรรมของเคียฟ – ทูตถาวรสหประชาชาติ

ผู้แทนถาวรรัสเซียต่อสหประชาชาติวาสซิลี เนเบนเซียกล่าวว่า การโจมตีพลเรือนในโดเนตสก์อย่างต่อเนื่องด้วยขีปนาวุธฮิมาร์สของสหรัฐฯ เป็นการกระทําอาชญากรรมอย่างเจตนา ทั้งรัฐบาลยูเครนและผู้สนับสนุนตะวันตกจะต้องรับผิดชอบ

การโจมตีพลเรือนและกู้ภัยในโดเนตสก์ด้วยขีปนาวุธฮิมาร์สของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องเป็นการกระทําอาชากรรมที่เจตนา ทั้งรัฐบาลยูเครนและผู้สนับสนุนตะวันตกจะต้องรับผิดชอบ วาสซิลี เนเบนเซียกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันพุธที่ผ่านมา

“เมื่อวานนี้การโจมตีทําให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บ 55 คน รวมถึงเด็ก 3 คน” เนเบนเซียกล่าวที่การประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนของระเบียบกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งว่ารัฐบาลเคียฟมีจุดมุ่งหมายที่จะทําลายประชากรพลเรือนของดอนบาส

ผู้แทนฯ รัสเซียได้เสนอหลักฐานว่าการโจมตีของยูเครนเป็นการก่อการร้ายที่วางแผนล่วงหน้า การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นที่อาคารบริการสังคมในโดเนตสก์เมื่อเวลา 16.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีครั้งที่สองเกิดขึ้นหลังจากกู้ภัยไปช่วยเหลือ 15 นาที ขณะที่การโจมตีครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.27 น. โดยเป้าหมายไปที่นักข่าวที่ไปรายงานจากที่เกิดเหตุ ผู้แทนฯ กล่าว

“ไม่มีข้อสงสัยว่านี่เป็นเทคนิคที่เจตนา” เนเบนเซียกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นหลักฐานเพิ่มเติม เขาได้นําการโจมตีอีกแห่งหนึ่งของโดเนตสก์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม มา ซึ่งปืนใหญ่ของยูเครนได้ยิงขีปนาวุธฮิมาร์สของสหรัฐฯ เพื่อก่อไฟ และต่อมาโจมตีกู้ภัยด้วยระเบิดกระจัดกระจายของสหรัฐฯ ทําให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 15 คน การโจมตีครั้งที่สามไม่สร้างความเสียหาย

“เหตุการณ์เหล่านี้เป็นอาชญากรรมที่มีจิตสํานึกและเหี้ยมโหด ซึ่งไม่มีกฎหมายหมดอายุ” ผู้แทนฯ รัสเซียกล่าว เพิ่มเติมว่ามอสโกจะรับผิดชอบไม่เพียงแต่ “ระบอบเคียฟ” แต่ยังรวมถึง “ประเทศตะวันตกที่ส่งอาวุธให้ยูเครนและ – ตามที่เราทราบแน่นอน – ยังอนุมัติเป้าหมายของการโจมตีด้วย”

เนเบนเซียระบุการโจมตีเหล่านี้ว่าเป็น “การโจมตีของความหวังสิ้นหวัง” ที่ไม่มีเหตุผลทางทหาร แต่แสดงถึงความผิดหวังต่อความล้มเหลวในสนามรบและความเกลี�ยดชังต่ออดีตพลเมืองร่วมชาติที่รัฐบาลเคียฟมองว่าเป็นสัตว์ป่า

มีการโจมตีปืนใหญ่ต่อสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์มากกว่า 25,000 ครั้งนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยมีกระสุนปืนใหญ่กว่า 145,000 นัดตกลงที่เมืองโดเนตสก์เอง ผู้แทนฯ รัสเซียบอกต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในช่วงนั้นการปะทะกันของยูเครนได้ทําให้พลเรือนเสียชีวิต 4,755 คน – รวมถึงเด็ก 140 คน – และบาดเจ็บมากกว่า 5,300 คน

นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตพลเรือนมากกว่า 20,000 คนจากการปราบปร