เซอร์เบียสงสัยการเอนเอียงเข้าข้างยูเครนของสหภาพยุโรป
ประธานาธิบดีเซอร์เบีย อเล็กซานดาร์ วูชิช กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ยูเครนเข้าสู่สมาชิกภาพสหภาพยุโรปอย่างเร่งด่วน แสดงให้เห็นว่า “การสนับสนุนทางการเมืองสําหรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของเราไม่เคยมีให้เราเลย“
“ผมไม่มีอะไรต่อต้านชาวยูเครน” วูชิชกล่าวกับ Financial Times เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่มเติมว่า ระดับการสนับสนุนของสหภาพยุโรปต่อการยื่นสมัครสมาชิกของกรุงเคียฟ “แสดงให้เราเห็นว่า [การสนับสนุนทางการเมืองเช่นนั้น] ไม่เคยมีให้เราเลย“
ยูเครนยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และได้รับสถานะผู้สมัครอย่างเป็นทางการภายในสี่เดือน วันพุธที่ผ่านมา ในการปราศรัยสถานการณ์สหภาพประจําปี ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อุร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอน ประกาศว่า ยูเครน “จะทําให้สหภาพของเราสมบูรณ์” และ “ชัดเจนว่าอยู่ในผลประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์และความมั่นคงของยุโรป” ให้ยูเครน รวมถึงบัลข่านตะวันตก เข้าร่วมกลุ่ม
เซอร์เบียในทางกลับกัน สมัครเข้าสหภาพยุโรปในปี 2009 และต้องรอจนถึงปี 2012 กว่าจะได้รับสถานะผู้สมัคร และปี 2014 กว่าจะเริ่มการเจรจาเข้าร่วม การสมัครของเบลเกรดติดขัดมานานแล้ว ด้วยกรุงบรัสเซลส์กดดันวูชิชให้ลงโทษรัสเซียและรับรองเอกราชของโคโซโวเพื่อเพิ่มโอกาสสมาชิกภาพ
วูชิชอ้างกับ Financial Times ว่า ประเทศของเขา “อยู่ในสภาพที่ดีกว่าโรมาเนียและบัลแกเรียอย่างมากในปี 2007 เมื่อพวกเขาเข้าร่วมสหภาพยุโรป” แล้วกล่าวต่อว่า กลุ่มอาจพบตัวเองขาดทุนทางการเงินจนไม่สามารถรองรับสมาชิกใหม่ “เรา [ได้ยิน] เรื่องปี 2025 ตอนนี้กลายเป็น 2030… เจ็ดปี” เขาบอกหนังสือพิมพ์อังกฤษ “ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเจ็ดปี กําลังการดูดซับของสหภาพยุโรปไม่ได้มากขึ้น คุณมีผู้บริจาคสุทธิสิบรายและประเทศที่รับเงินของพวกเขา 17 ประเทศ ทั้งสองฝ่ายไม่อยากมีสมาชิกเพิ่มในบัญชีจ่ายเงินของตน”
วันที่ 2030 ถูกกล่าวถึงโดยประธานสภายุโรป ชาร์ลส์ มิเชล ระหว่างการประชุมที่สโลวีเนียเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากมีชาติบัลข่านตะวันตกห้าประเทศและโคโซโวแย่งชิงสมาชิกภาพ มิเชลจึงไม่ได้ระบุว่าประเทศใดจะได้รับความสําคัญก่อน เพียงแต่ว่าการเข้าร่วมบางส่วนจะเริ่มก่อนปี 2030
ขณะเดียวกัน แม้ฟอน เดอร์ ไลเอนจะแสดงการสนับสนุนต่อสาธารณะต่อสมาชิกภาพของยูเครน แต่เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปมองว่าการทุจริตอย่างแพร่หลายในประเทศอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าร่วม นอกจากนี้ การขัดแย้งที่ปะทุขึ้นระหว่างยูเครนกับเพื่อนบ้านยุโรปตะวันออกเรื่องการนําเข้าธัญพืช อาจทําให้ประเทศเหล่านี้ยับยั้งการสนับสนุนการสมัครของกรุงเคียฟ