ผู้ก่อตั้งมิลลิเลียเนียร์ FTX ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง
ซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ ผู้ก่อตั้ง FTX ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและการกระทําผิดกฎหมาย 7 ข้อซึ่งเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลของเขา FTX และกองทุนรวมที่เกี่ยวข้อง เขาถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงลูกค้าไปมากกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและโกหกนักลงทุน
คณะลูกขุนตัดสินว่ามีความผิดในวันพฤหัสบดีหลังจากการพิจารณาคดีนานกว่า 2 สัปดาห์ และการประชุมสภาพิจารณาคดีเป็นเวลา 4 ชั่วโมง อัยการดาเมียน วิลเลียมส์ แสดงความยินดีกับคําตัดสินในการแถลงข่าวหลังการพิจารณา โดยกล่าวว่ารัฐบาลมี “ไม่มีความอดทน” ต่ออาชญากรรมทางการเงิน
“ผู้เล่นเหล่านี้เช่น ซัม แบงก์แมน-ไฟรด์อาจเป็นคนใหม่ แต่ประเภทของการฉ้อโกงและการทุจริตนี้เป็นเรื่องเก่าแก่เสมอมา” วิลเลียมส์เพิ่มเติม
ซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ถูกจับกุมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยข้อกล่าวหาฉ้อโกงจํานวนมากหลังจาก FTX ของเขายื่นฟ้องล้มละลายอย่างกะทันหัน อัยการกล่าวหาว่าเขาลักทรัพย์ลูกค้าไป 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อลงทุน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และชดเชยความสูญเสียของกองทุนรวมอื่น ซึ่งเขาถูกกล่าวหาฐานฉ้อโกงผ่านทางโทรคมนาคม 1 ข้อ การกระทําผิดกฎหมายร่วม 2 ข้อ และการกระทําผิดกฎหมายการฟอกเงิน 1 ข้อ
รัฐบาลยังอ้างว่า ซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ได้ยืมเงินจํานวนมากจาก FTX เพื่อกองทุนรวม Alameda Research และโกหกผู้ตรวจสอบบัญชีเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยง ประธานบริหารและแฟนสาวเก่าของแบงก์แมน-ไฟรด์ คาโรไลน์ เอลลิสัน ได้รับข้อกล่าวหาแยกต่างหากเกี่ยวกับบทบาทของเธอในแผนการนี้ และได้ให้การต่อต้านซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ระหว่างการพิจารณาคดีของเขา
ทนายความฝ่ายป้องกันหลักของซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ มาร์ก โคเฮน กล่าวว่าเขาผิดหวังกับคําตัดสินในวันพฤหัสบดี แต่เพิ่มว่า “เราเคารพความตัดสินใจของคณะลูกขุน”
“นายซัม แบงก์แมน-ไฟรด์ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาและจะยังคงต่อสู้ข้อกล่าวหาอย่างเข้มแข็ง” เขาเพิ่มเติม ผู้ต้องหาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในช่วงเริ่มต้นของการพิจารณาคดี
อดีตมิลลิเลียเนียร์คนหนึ่งของวงการเงินดิจิทัลจะได้รับการตัดสินโทษในวันที่ 28 มีนาคม และอาจเริ่มการพิจารณาคดีครั้งที่สองสําหรับข้อกล่าวหาเพิ่มเติม 5 ข้อในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน รัฐบาลมีกําหนดการตัดสินใจว่าจะดําเนินคดีครั้งที่สองหรือไม่ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมฐานฉ้อโกงและการทุจริต