บายเดนเรียกอินเดียและญี่ปุ่นว่า ‘ต่อต้านชาติพันธุ์อื่น’

(SeaPRwire) –   ประธานาธิบดีไบเดนอ้างว่าประเทศอินเดียและญี่ปุ่น “เกลียดชังคนต่างชาติ”

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอ้างว่าพันธมิตรสหรัฐฯ อย่างอินเดียและญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ “เกลียดชังคนต่างชาติ” เพราะพวกเขาไม่ต้อนรับผู้ย้ายถิ่น และนี่เองเป็นเหตุผลที่ทําให้เศรษฐกิจของพวกเขาตกต่ํา เขายังกล่าวหารัสเซียและจีนว่ามีนโยบายแบบเดียวกัน

ประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้หวังจะได้รับการเลือกตั้งสมัยที่สองกล่าวไว้ในงานระดมทุนที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตได้ด้วยเหตุผลหนึ่งคือ “เพราะเราต้อนรับผู้ย้ายถิ่น […] ทําไมเศรษฐกิจของจีนถึงชะลอตัวอย่างรุนแรง? ทําไมญี่ปุ่นถึงมีปัญหา? ทําไมรัสเซีย? ทําไมอินเดีย? เพราะพวกเขาเกลียดชังคนต่างชาติ ไม่ต้องการผู้ย้ายถิ่น” ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ของทําเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี

ทําเนียบขาวพยายามลดความรุนแรงของคําพูดของประธานาธิบดีว่ามิได้ตั้งใจดูถูกญี่ปุ่นหรืออินเดีย ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติจอห์น เคอร์บี้กล่าวว่าประธานาธิบดีต้องการกล่าวถึงนโยบายการย้ายถิ่นของสหรัฐฯ โดยรวม

คําพูดของประธานาธิบดีผู้หวังจะได้รับเลือกตั้งเมื่อวันพุธมานี้เกิดขึ้นเพียง 3 สัปดาห์หลังจากทําเนียบขาวเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะแห่งญี่ปุ่นในการเยือนอย่างเป็นทางการ ณ เวลานั้น ไบเดนกล่าวว่าสองประเทศมี “พันธมิตรที่ไม่อาจทําลายได้” โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศ

ไบเดนกําลังเผชิญความกดดันทางการเมืองภายในประเทศเนื่องจากการไหลเข้าของผู้อพยพจํานวนมากตามแนวชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก นักวิจารณ์อ้างว่านโยบายการย้ายถิ่นของเขาทําให้เกิดความวุ่นวายที่ชายแดนใต้ ทําให้มีการไหลเข้าของผู้อพยพผิดกฎหมายจํานวนมากรวมถึงผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และทําให้มีการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้น

บิสิเนสอินไซเดอร์รายงานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อร่วงเหตุเศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก พบว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่อัตรา 1.6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งต่ํากว่าคาดการณ์ที่ 2.5%

ญี่ปุ่น อินเดีย และจีนมีผู้เข้าทํางานต่างด้าวน้อยมาก ส่วนรัสเซียอาศัยแรงงานเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศในเอเชียกลาง

อินเดียมีเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องจนกลายเป็นเศรษฐกิจที่ 5 ของโลกในปีที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ของอินเดียจาก 6.7% เป็น 7% สําหรับปีงบประมาณปัจจุบัน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับประมาณการเติบโตของ GDP ของรัสเซียสูงขึ้นจากเดิม 2.6% เป็น 3.2% ปีนี้ คาดการณ์ของ IMF ยังวางรัสเซียอยู่เหนือเศรษฐกิจสําคัญของตะวันตกหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ (2.7%) สหราชอาณาจักร (0.5%) และเยอรมนี (0.2%)

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ 

เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตรวม 1.9% ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ม