ฉาวอีก! โกงสอบตำรวจ จ่ายหัวละ 5 แสน พบผู้เกี่ยวข้องเป็นระดับรองสารวัตร ทำเป็นขบวนการ

จากกรณีที่มีประเด็นเกี่ยวกับการโกงข้อสอบนายสิบตำรวจ ในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 9 ที่มีข้อมูลระบุว่ามีขบวนการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้ตั้งแต่ตำรวจไปจนถึงโรงเรียนกวดวิชาซึ่งผู้สมัครสอบต้องเสียเงินรายละ 500,000 บาทเพื่อแลกกับคำตอบในการสอบ

ด้านพันตำรวจเอกอุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.ร.ร.นรต.ปรท.กส.บช.ศ. เปิดเผยว่า หลังได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดย พันตำรวจเอกอุเทน ระบุว่ากรณีการทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสอบรับสมัครนายสิบตำรวจประจำสังกัดตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายการทุจริตการสอบจำนวน 35 ราย ซึ่งหลังจากได้รับคำสั่งได้ทำการสืบสวนรวบรวมหลักฐานจนพบว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวมีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองสารวัตรอำนวยการของตำรวจภูธรภาค 9 เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสนามสอบ และโรงเรียนกวดวิชาที่จะทำหน้าที่ในการจัดหา ผู้สมัครสอบที่ต้องการคำตอบ โดยผู้สมัครจะต้องเสียค่าดำเนินการหัวละ 500,000 บาท ก่อนที่จะได้รับคำตอบในช่วงเช้าของวันสอบ

ซึ่งชุดสืบสวนการทุจริตในครั้งนี้ มีการตรวจสอบหาช่วงที่มีการทุจริตข้อสอบทั้งเรื่องของการเคลื่อนย้ายชุดข้อสอบจากทางโรงพิมพ์หมายถึงตามสนามสอบต่างๆในประเด็นนี้ไม่พบว่ามีความผิดปกติ แต่เมื่อสืบสวนลงในรายละเอียดในตามแต่ละสนามสอบย่อยพบว่าจุดที่มีปัญหาที่เป็นช่วงที่ทำให้ข้อสอบรั่วไหลเกิดขึ้นในช่วงนี้คือช่วงที่ข้อสอบมาถึงยังสนามหลักและมีการส่งออกไปยังสนามสอบย่อยตามแต่ละจุดย่อยในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจภาค 9 ซึ่งคาดว่าข้อสอบจะรั่วไหลในช่วงนี้และมีการเตรียมคำตอบให้กับผู้สมัครสอบก่อนที่จะเข้าสู่ห้องสอบ โดยผู้สมัครสอบที่พบว่าทุจริตส่วนมาก สอบในสนามสอบย่อย ที่สุดท้ายมีการสรุปจำนวนผู้ที่ทุจริตในการสอบในครั้งนี้จำนวน 118 ราย และขณะนี้ได้มีคำสั่งให้นักเรียนที่ผ่านการสอบในจำนวนดังกล่าวที่มาจากการทุจริตทั้งหมดพ้นสภาพจากการเป็นนักเรียนโรงเรียนนายสิบเป็นที่เรียบร้อย ส่วนการดำเนินการกับตำรวจที่ร่วมในการทุจริตขณะนี้มีการส่งชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปให้หน่วยงานต้นสังกัด รวมถึงทำหนังสือชี้แจงไปที่กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ทราบในรายละเอียดขนาดนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย

นอกจากนี้คณะทำงานตนเองยังได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบการทุจริตการเปิดรับนายตำรวจอำนวยการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เบื้องต้นจากการ สืบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงกันกับเครือข่ายของกลุ่มที่กระทำ การทุจริตการสอบนายสิบตำรวจประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยในส่วนของจำนวนผู้ที่ทุจริตในการสอบหรือมีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพราะอยู่ในขั้นตอนของการรายงานชี้แจงไปยังหน่วยงานต้นสังกัดผู้บังคับบัญชาและกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งคาดว่าการดำเนินการในส่วนของผู้สมัครสอบ จะใช้วิธีการขัดแยกผู้ที่ทำการทุจริตการสอบออกจากจำนวนผู้ผ่านการสอบคัดเลือกและดึงรายชื่อของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกที่อยู่ในส่วนของตัวสำรองที่ไม่มีการทุจริตการสอบขึ้นมาทดแทนแต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดรวมถึงจำนวนได้

การป้องกันที่ดีที่สุดในการสอบรับ ควรจะเป็นการจัดสอบที่เกิดขึ้นภายในสนามสอบหลักเพียงอย่างเดียวเพื่อลดช่องว่างในการเดินทางของข้อสอบแต่ต้องยอมรับว่าในประเทศไทย สามารถทำได้ยากเพราะ มีผู้สนใจสมัครเข้าสอบรับราชการตำรวจเป็นจำนวนมากทำให้ต้องมีการกระจายจุดสนามสอบย่อยออกไปตามพื้นที่ต่างๆจึงเป็นช่องว่างในการกระทำความผิดแต่ต่อจากนี้กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการ หาแนวทางป้องกันการเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

ด้านพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์กิตติประพัฒน์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจศึกษาได้รายงานประเด็นเรื่องการทุจริตการสอบเข้ารับราชการตำรวจซึ่งมีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยทราบว่ามีการทุจริตในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเป็นการสอบเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ทราบว่ามีการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทั้งผู้เข้าสอบและเจ้าหน้าที่นายอื่นๆ ไปบางส่วนแล้ว ส่วนการสอบในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งเป็นการสอบเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอรายงานจากกองบัญชาการศึกษาอย่างเป็นทางการว่า การตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไรคาดว่าในช่วงบ่ายนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น