หุ้นฟอร์ดเป็นหุ้นซ่อนเร้นหรือกับดักมูลค่าหลังลดลง 35%?

Ford Stock

หุ้นของ Ford (NYSE:F) กําลังอยู่ในภาวะลดลง ล่าสุดปิดต่ํากว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 จนถึงปัจจุบันในปี 2566 ผู้ผลิตรถยนต์จากเมืองดีทรอยต์นี้ประสบการณ์ลดลง 15% และหุ้นของบริษัทลดลงถึง 35% จากระดับสูงสุดที่เกิน 15 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม บทความนี้จะศึกษาเหตุผลที่ทําให้หุ้นของ Ford ลดลง และพิจารณาความเป็นไปได้ของบริษัทในอนาคต

เหตุผลที่ทําให้หุ้นของ Ford ลดลง

รายงานผลการดําเนินงานไตรมาสที่ 3 ของ Ford ที่เผยแพร่ล่าสุดเปิดเผยปัญหาหลายประการ บริษัทไม่เพียงพลาดการคาดการณ์กําไรต่อหุ้นของนักวิเคราะห์เท่านั้น แต่ยังถอนการคาดการณ์กําไรสําหรับปี 2566 ซึ่งมีการปรับขึ้นในรายงานผลการดําเนินงานก่อนหน้า

นอกจากนี้ Ford ยังแสดงความเห็นที่ระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเลื่อนการลงทุน 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกําลังการผลิต EV อย่างไรก็ตาม General Motors (GM) ก็ลดการคาดการณ์การผลิต EV และยกเลิกความร่วมมือกับ Honda Motors (HMC) ในการพัฒนา EV ขนาดเล็ก

นอกเหนือจากผลการดําเนินงาน ยังมีปัจจัยอื่นที่กดดันราคาหุ้นของ Ford และ GM อย่างมาก คือการเจรจาต่อรองสัญญาจ้างงานระหว่าง United Auto Workers (UAW) กับบริษัทรถยนต์ล่าสุด ถึงแม้จะเป็นผลดีต่อสหภาพแรงงาน แต่ก็คาดว่าจะทําให้ต้นทุนต่อรถยนต์ของ Ford เพิ่มขึ้น 850-900 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ Ford ยังกล่าวถึงปัญหาเรื่อง “คุณภาพ” และ “ต้นทุน” ซึ่งส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรับประกันสินค้าสูงขึ้นในไตรมาสที่สาม นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่เอื้ออํานวย เช่น อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ก็ทําให้นักลงทุนและผู้บริโภคระมัดระวังต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ซีกตัว

หุ้นของ Ford น่าจะเป็นโอกาสลงทุนที่ดีหรือไม่

ถึงแม้จะมีปัญหาต่างๆ ในปัจจุบัน แต่มีปัจจัยหลายประการที่น่าจะพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นของ Ford ที่ราคาต่ํากว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น:

ธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่ง: ธุรกิจหลักของ Ford คือธุรกิจรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน Ford Blue และธุรกิจรถบรรทุกยังคงแข็งแกร่ง ในไตรมาสที่สามสามารถสร้างกําไรก่อนภาษีประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อส่วนธุรกิจ

ความยืดหยุ่นในการผลิต: ถึงแม้ Ford จะปรับลดแผนการผลิต EV แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นในการผลิตระหว่างรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อเพิ่มกําไรได้

แผนการขับเคลื่อน Ford+: แผนการขับเคลื่อนของ Ford เน้นการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทํากําไร

ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง: Ford มีผลิตภั