ปักกิ่ง, 19 ก.ย. 2566 /CNW/ — นี่คือรายงานจาก China Daily:
ตั้งอยู่บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “ขั้วโลกที่สาม” มณฑลชิงไห่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ได้เป็นกําแพงป้องกันสําคัญด้านนิเวศวิทยาสําหรับความมั่นคงทางนิเวศวิทยาในเอเชียและโลก ผ่านความพยายาม 10 ปี มณฑลนี้ได้กลายเป็นแบบอย่างสําหรับการสร้างอารยธรรมนิเวศและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
ชิงไห่เป็นมณฑลที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศจีนในแง่ของพื้นที่ และเป็นต้นกําเนิดของแม่น้ําแยงซี แม่น้ําเหลือง และแม่น้ําโขง มณฑลนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีสําหรับทรัพยากรน้ํา พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมที่อุดมสมบูรณ์ ท้องฟ้าสีฟ้า ภูเขาสีเขียว และน้ําที่ใสสะอาดเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์เด่นของที่นี่
อุทยานแห่งชาติ Three-River-Source ตั้งอยู่ในมณฑลชิงไห่ เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติรุ่นแรกๆ ของประเทศจีน มีระบบนิเวศที่ไม่เหมือนใครและมีความหลากหลายทางชีวภาพในภูมิภาคที่สูง
ทะเลสาบชิงไห่เป็นทะเลสาบน้ําจืดที่ใหญ่ที่สุดภายในประเทศและทะเลสาบเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ข้อมูลในปี 2564 แสดงให้เห็นว่าพื้นที่น้ําของทะเลสาบชิงไห่เพิ่มขึ้นเกือบ 220 ตารางกิโลเมตรในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
กฎหมายคุ้มครองนิเวศวิทยาที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายน เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการคุ้มครองด้านนิเวศวิทยาบนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตในระดับชาติ
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประชากรของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เสือหิมะ กวางแอนทิโลปทิเบต กวางทิเบต และนกกระเรียนคอดําเพิ่มขึ้นทุกปี
ชิงไห่ยังมีทะเลทรายและที่ดินรกร้างว่างเปล่าเป็นจํานวนมาก ทําให้โอกาสในการพัฒนาพลังงานสะอาดมีความสดใส โดยการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ํา และพลังลมอย่างมากมาย ชิงไห่กําลังสร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์และสถานีผลิตไฟฟ้าผสม
ณ สิ้นปี 2565 กําลังการผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้งของมณฑลมี 44.68 ล้านกิโลวัตต์ ซึ่ง 91.2% หรือ 40.75 ล้านกิโลวัตต์มาจากพลังงานสะอาด และ 28.14 ล้านกิโลวัตต์ หรือ 62.9% มาจากพลังงานใหม่
ผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูง กระแสไฟฟ้าสีเขียวของชิงไห่จ่ายไฟให้ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งตาซิง และจะบริการให้กับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที