บริษัท Alphabet Inc. (NASDAQ: GOOG, NASDAQ: GOOGL) เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประกาศผลการดําเนินงานที่ผสมผสาน ซึ่งทําให้นักลงทุนผิดหวัง และส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 76.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ต่ํากว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะได้ 85.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ อัตราการเติบโตเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) อยู่ที่เพียง 2.8% โดยรายได้ไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นเพียง 2.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับรายได้ไตรมาสที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ 74.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถึงแม้ผลการดําเนินงานจะผสมผสาน แต่ Alphabet ก็ยังเป็นบริษัทที่มีกําไรสูงและมีเงินสดสุทธิ (FCF) ที่แข็งแกร่ง ในไตรมาสที่ 3 บริษัทสร้าง FCF ได้ถึง 22.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.77% เมื่อเทียบกับ FCF ในไตรมาสที่ 2 อัตรากําไรสุทธิยังอยู่ที่ระดับสูงที่ 29.4% ในไตรมาสที่ 3
ต่อการลดลงของราคาหุ้น Alphabet มีกิจกรรมการเรียกซื้อสิทธิตัวเลือก (call option) อย่างมาก โดยเฉพาะสิทธิตัวเลือกที่อยู่นอกเหนือราคาใช้สําหรับหุ้นของทั้ง GOOG และ GOOGL นี้แสดงว่าบางนักลงทุนอาจมองว่าการลดลงนี้เกินไป และเห็นว่ามีโอกาสฟื้นตัว นอกจากนี้ สิทธิตัวเลือกเรียกซื้อบางตัวยังเปิดโอกาสให้ทําการคุ้มครอง เช่น สิทธิตัวเลือกเรียกซื้อที่ราคาใช้ 130 ดอลลาร์สหรัฐ ครบกําหนดในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งให้ผลตอบแทน 1.0% ของราคาหุ้นในปัจจุบัน
นักลงทุนที่เป็นตรงข้ามอาจมองว่าบริษัทมีการสร้างเงินสดสุทธิที่แข็งแกร่ง และอาจเห็นว่ามีโอกาสที่ราคาหุ้นจะฟื้นตัว โดยใช้เกณฑ์การวัดอัตราผลตอบแทนจากเงินสดสุทธิ สามารถประมาณมูลค่าสูงขึ้นของหุ้น GOOG และแสดงโอกาสการเติบโตที่สูงจากมูลค่าตลาดในปัจจุบัน แม้ว่าการคํานวณนี้จะขึ้นอยู่กับสมมติฐานและการประมาณการต่างๆ
สรุปแล้ว ถึงแม้ผลการดําเนินงานล่าสุดของ Alphabet จะทําให้บางนักลงทุนผิดหวัง แต่ตลาดยังคงมีความมั่นใจ บางคนเห็นการลดลงของราคาหุ้น Alphabet เป็นโอกาส และให้ความสนใจกับการสร้างเงินสดสุทธิของบริษัทและศักยภาพระยะยาวของมัน