ไม่ได้อยากเป็นชู้ ที่เธอรู้ไม่ใช่เรื่องจริง! ย้อนคดีชู้ไม่มีจริง ทุกสิ่งคือฝันไป

อยากเป็นคนรัก ไม่ได้อยากเป็นชู้ ถ้าฉันรู้ฉันจะรักเธอไหม บางครั้งความรักกับความปรารถนา อาจเป็นเส้นบางๆ ที่กันไว้ระหว่างความดีกับความถูกต้อง

ถ้าทำตามความรักอาจจะยับยั้งชั่งใจได้เพราะความหวังดี แต่ถ้าทำตามแรงปรารถนาความถูกผิดก็ไม่มีในหัวใจ

แต่เมื่อใดที่ความรักเข้าครอบงำมากเกินไปจนเกิดแรงหึงหวง คนใกล้ชิดคนรักเราก็จะกลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ความจริงอาจจะฝันไป แม้ไม่ได้คิดแต่ชีวิตเปลี่ยนไปแล้ว

ย้อนดูแรงรักแรงหึงหวงเปลี่ยนคนใกล้ชิดกลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว

พวงสวรรค์ขาด ชาตินี้ไม่ได้ใช้! ผัวเก่าปืนลั่นใส่ผัวใหม่ พวงสวรรค์กระจุย

วันที่ 10 พ.ย.65 เกิดเหตุผัวเก่าคือ นายบุญเติม อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า

ตนเองเพิ่งกลับมาจากไปเร่ขายลอตเตอรี่ ตามสถานที่ต่างๆ จนเย็น จึงเดินทางกลับมาที่ห้องพัก และได้นั่งดื่มเหล้าอยู่แฟนภายในห้อง ก่อนจะลุกขึ้นไปเอาอาวุธปืน ซึ่งซื้อมาจากเพื่อนมาได้ประมาณ 1 ปี ออกมาจากชั้นเก็บเสื้อผ้า เพื่อจะเอาไปเก็บไว้ที่รถยนต์

ขณะที่เดินถืออาวุธปืนมา และได้ผ่านห้องของอดีตภรรยาตนจึงได้แวะซักถาม แต่บังเอิญปืนในมือ นิ้วเกิดไปเหนี่ยวไก จึงทำให้ปืนเกิดลั่น และกระสุนพุ่งไปโดนเข้าที่บริเวณหว่างขาของนายสมชาย ด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ตนเองเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้องแล้วนำปืนไว้เก็บซ่อนไว้ที่ชั้นเสื้อผ้าเช่นเดิม และปิดประตูห้อง

จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะประตู ซึ่งตนเองได้เปิดและยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเป็นตนและยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายสมชายจริง แต่ไม่ได้

ด้าน นางสาวอุบลรัตน์ อดีตภรรยานายบุญเติม ผู้ก่อเหตุ ยืนร่ำไห้อยู่หน้าห้องเช่า ได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ตนได้แยกทางกับนายบุญเติม กว่า 7 ปี

ตนก็ได้สามีใหม่คือนายสมชาย และเราทั้งสองได้มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นหญิง อายุ 6 ปี และเช่าห้องอยู่ใกล้กับ นายบุญเติม อดีตสามี

โดยที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงระยะหลัง หลังจากที่นายบุญเติม มีภรรยาใหม่ อยู่ด้วยกันไม่นาน อดีตสามีมักจะระแวงและหึงหวงไปหมด ยิ่งนายสมชาย สามีตนเอง ก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน ยิ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก

ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามี เพิ่งกลับจากไปขายลอตเตอรี่ด้วยกันที่ปากน้ำชุมพร และเมื่อกลับมาถึงหลัง นายสมชาย สามี ได้เปิดประตูห้องเข้าไปก่อน ส่วนตนเองยังสาละวนเก็บของอยู่หน้าห้อง และไม่นาน ก็ได้ยินเสียง นายบุญเติม ถามตนว่า มันอยู่ไหน ซึ่งตนได้เงยหน้าแต่ยังไม่พูดอะไร ก็เห็นนายบุญเติม เดินเข้าไปที่ตรงประตูห้อง และก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น 1 นัด พร้อมเสียงโหยหวนของนายสมชาย ดังลั่นออกมา จึงรู้แล้วว่านายบุญเติม ยิงสามีแล้ว

ที่บริเวณหว่างขาที่โชกไปด้วยเลือด และแพทย์ได้แจ้งว่ากระสุนเข้าบริเวณพวงสวรรค์ของนายสมชาย จนเละไม่สามารถให้การได้แล้ว ทำให้ตนตกใจอย่างมาก แต่ขอให้นายสมชาย มีชีวิตก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นจึงไม่สำคัญกับคำว่าครอบครัว

ขนาดเลิกกันไปนานแล้วต่างคนต่างมีใหม่ แต่ผัวเก่าดันทำปืนลั่นใส่ผัวใหม่ตรงจุดนั้นพอดีแป๊ะๆ เลย

คิดว่าชู้ รู้เมื่อสาย! หนุ่มใหญ่หึงโหดควงมีดฟันคอชายที่คิดว่าเป็นชู้ ดับคาที่ เมียบาดเจ็บสาหัส

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีคนถูกฟันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในร้านค้า ตำบลบางหัวเสือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

ภายในร้านค้าพบร่างนายบรรจบ อายุ 53 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิต มีแผลฉีกขาดบริเวณลำคอข้างขวา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมา นางเขต อายุ 52 ปี ถูกฟันที่บริเวณศีรษะ

ที่บริเวณต้นไม้ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน พบมีดอีโต้ ความยาวประมาณเกือบ 1 เมตร ที่ใบมีดพบคราบเลือดติดอยู่ ส่วน นายบุญเลื่อน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้กอเหตุ

จากการสอบถามนายบุญเลื่อน ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนก็ไม่ได้รู้จักกับคนตายหลอก แต่ตนจับได้ว่าทั้งคนตายกับแฟนตนแอบเป็นชู้กัน มาเป็นปีแล้ว ตนขายที่ได้ 5 ไร่ แฟนตนก็เอาเงินไปเลี้ยงผู้ตาย เขานัดกันหลายเที่ยวแล้ว และผู้ตายก็ชอบมาเย้ยถึงหน้าบ้าน

ในวันนี้ผู้ตายก็มานั่งที่ร้านค้าตรงข้ามบ้านตน ตนจึงตัดสินใจถือมีดออกไปฟันคนตาย ก่อนที่แฟนตนจะเข้ามาห้ามด้วยความโมโหตนจึงฟันแฟนด้วย ก่อนจะเดินกลับมารอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในบ้าน อยู่ในคุกยังมีศักดิ์ศรีมากกว่ามานอนหงอยให้มันมาเย้ยถึงหน้าบ้านมันเกินไป ตนยอมรับตนตั้งใจฟัน 

ด้านวุฒิชัย เสนาวงษ์ อายุ 27 ปี ลูกชายของผู้ก่อเหตุ และ ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า พ่อ (ผู้ก่อเหตุ) คงคิดไปเองว่า แม่ (ผู้บาดเจ็บ) ไปมีชู้ ซึ่งจากที่ตนเองรู้ แม่ไม่มีนิสัยอย่างนั้น พ่อตนเองคงคิดไปเอง โดยนิสัยของพ่อตนเองเป็นคนขี้หึง

เหตุการณ์นี้ต้องยอมรับว่าความหึงบังตา คิดว่าเป็นชู้ทั้งที่ไม่รู้ตัว แต่เมื่อคิดได้ก็สายเสียแล้ว

ผัวโพสต์ตามชู้มาสู่ขอ “ผญบ.หญิง” เรียกสินสอด 6 หมื่น แต่เอ๊า! โดนเมียแจ้งความ

นายโต (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี โพสต์ข้อความของชายคนหนึ่งระบุว่า “ขอใช้พื้นที่โพสต์ให้ชายที่เป็นชู้กับภรรยาของตนเองทราบว่า ตนเองได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยากให้แสดงความเป็นลูกผู้ชาย นำสิสอด 60,000 บาท มาขอเมียผมไป จะได้ไม่ต้องหลบซ่อน” จนมีการแชร์ออกไปและคอมเม้นต้องติดตามใครผิดใครถูก

นายโต เล่าว่า ตนเองทำงานอยู่กินและจดทะเบียนสมรส กับภรรยาชื่อนางสาวเพ็ญ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน แห่งหนึ่ง อ.เมืองเลย มานาน 15 ปี มีลูก 2 คน จนเมื่อปีที่แล้วจับได้ว่า ภรรยาของตนเองแอบมีความสัมพันธ์กับนายแดง (นามสมมุติ) ผช.ผญบ. จนมีการพูดคุยกันทั้ง 3 คน ภรรยา และ ผช.ผญบ. ได้ยอมรับสารภาพว่าผิดไปแล้ว

จนภรรยาของ ผช.ผญบ.จากนั้นโทรมาบอกว่าสามีเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของตนเอง จึงได้โพสต์ประจานในเฟสบุ๊ก จนแม่ของภรรยาได้ไล่ตนเองออกจากบ้าน จึงต้องมาเช่าหอในเขตเมืองเลย แต่ตลอดเวลาภรรยาไปมาหาสู่ตนเองโดยไม่บอกที่บ้าน

จนเมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 ที่ผ่านมา จับได้ว่าภรรยาได้นัดหมายกับ ผช.ผญบ. จึงขี่รถ จยย. โดยมีลูกสาวนั่งซ้อนท้ายไปด้วย จนพบตัวและมีปากเสียง จึงได้ตบภรรยาไป 5-6 ครั้ง จนภรรยาปิดมือถือหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โพสต์เพื่อขอให้ ผช.ผญบ. แสดงตัวเป็นลูกผู้ชาย ออกมารับผิดชอบ

โดยมาขอภรรยา โดยขอค่าสินสอด 60,000 บาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูกสาวทั้ง 2 คน พร้อมเซ็นใบหย่าให้ทันที โดยทั้งสองคนไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป

ด้าน นางสาวเพ็ญ ผญบ. เล่าว่า ได้อยู่กินกับสามี จนมีลูก 2 คน จนเมื่อปีที่แล้วไปมีความสัมพันธ์กับ ผช.ผญบ. คนหนึ่ง จนมีเรื่องราวและเลิกกันไปและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

จนเมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 หลังเลิกเรียนที่มหาวิทยาลัยฯ สามีเห็นว่าขับรถเก๋งตาม ผช.ผญบ. ที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน เกิดความระแวงและขี้หึง จึงขับรถตามจนมีเรื่องและปากเสียงกัน ถูกสามีทำร้ายจนหน้าตาบวบ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และเมื่อวานสามีโพสต์ทำให้เกิดความเสียหาย จึงเข้าแจ้งความหมิ่นประมาทและทำร้ายร่างกาย และจะเอาเรื่องถึงที่สุด และขอเลิกเด็ดขาด

นายแดง ผช.ผญบ.  เปิดเผยว่า ข่าวที่ออกไปนั้นไม่เป็นความจริง ตนเองกับ ผญบ. รู้จักกันที่มหาวิทยาลัย เรียนด้วยกัน รู้จักกันเป็นเพื่อน ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งตามที่สามีของ ผญบ. บอก 

โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 ที่ผ่านมา หลังเลิกเรียน ตนเองได้ขับรถกลับบ้านตามปกติ โดยมี ผญบ. ขับตามมา  จนสามีของ ผญบ. ขี่รถ จยย. จามหา ตนเองกลัวจะมีเรื่องรีบขับรถหนี เพราะสามี ผญบ. เคยไปอาละวาดที่มหาวิทยาลัย จนเกิดความกลัวว่าจะมีเรื่อง

ส่วนที่บอกว่าตนเองกับ ผญบ. มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเมื่อปีที่แล้ว และมีคลิปเสียงนั้น ยอมรับไม่จริง ไม่มีอะไรกัน ส่วนในคลิปเสียงที่ยอมรับ เพราะเริ่มพูดคุยกันจนมีเรื่อง และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ส่วนเรื่องที่หมิ่นประมาทตนเองจนเสื่อมเสีย ถ้านายโตยอมจบก็จะไม่เอาเรื่อง 

ผัวหึงเมีย เมียบอกไม่จริง เพื่อนกลายเป็นชู้ไม่รู้ตัว สุดท้ายแล้วคืออารมณ์หึงล้วนๆ