“แม่น้องโชค” บุกถามความจริงตำรวจ สรุปคดีเป็น “ปืนลั่น” ขัดแย้งกับสภาพศพ

 ทนายโป้ง พร้อมแม่น้องโชค เดินหน้าหาความจริง สภ.บางบัวทอง ปมสรุปคดีเป็นปืนลั่น ขัดแย้งกับสภาพศพ

ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 เมื่อเวลา 14.00 น. สภ.บางบัวทอง รับแจ้งจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อ้างเหตุคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนระเบิดใส่ น้องโชค อายุ 15 ปี จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ต่อมาเพื่อนคนหนึ่งยอมรับว่า เอาปืนไปโรงเรียน และขณะเกิดเหตุเกิดปืนลั่น

อ่านข่าว ไม่ใช่คีย์บอร์ดระเบิด! เพื่อนยอมรับทำปืนลั่นใส่ ม.3 ดับคาห้องคอมโรงเรียน

ล่าสุด เมิ่อเวลา 15.00 น. (17 ก.ย.) ที่ สภ.บางบัวทอง นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา พาแม่น้องโชค เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบถามผลการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ และให้แม่น้องโชคให้การในฐานะผู้เสียหาย จะได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 44/1 และมีประเด็นข้อสงสัยที่จะสอบถาม เรื่องการตรวจเขม่าดินปืนที่มือของน้องต้าผู้ก่อเหตุ และเหตุที่ไม่แจ้งข้อกล่าวหากับทางคณะครูอาจารย์ในโรงเรียน

แม่น้องโชค กล่าวว่า วันนี้ตนอยากมาหาความจริงกับคดีน้องโชค เลยพาคุณทนายมาเป็นผู้หาคำตอบให้ ตนสงสัยในหลายๆประเด็น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการทำคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หาหลักฐานครบถ้วนมั้ย เรื่องปืนที่เป็นข่าวได้ตรวจเขม่าในบริเวณแวดล้อม วิถีกระสุนที่บอกว่าปืนลั่นมันมาทิศทางไหน อยากได้ความชัดเจนที่สุด ตนไม่เชื่อว่าเป็นปืนลั่น อย่างน้อยวันนี้มาเพื่อหาความจริงและความยุติธรรมกับลูกของคน

นิสัยของโชคคือเป็นคนร่าเริง เพื่อนลูกบางคนที่ตนรู้จักคือเด็กกิจกรรม ไปเต้นด้วยกัน ตนไม่ทราบว่าเขาเป็นเพื่อนกับต้ามั้ย เพราะเขามองว่าทุกคนคือเพื่อน ตนก็เชื่อว่าลูกคนเป็นคนดีคนนึง ตนไม่เชื่อที่ต้าพูดว่าเป็นเพื่อนสนิทกับโชค อันนี้ก็สงสัยในเรื่องคดีจึงได้ให้คุณทนายเข้ามาดูแล และอยากได้รับความจริงมากที่สุด ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

ตนยังไมไ่ด้รับคำอธิบายเรื่องวิถีกระสุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ตำรวจสรุปคดีไปแล้วทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนได้ข้อมูลมาว่าไม่ใช่ ทำไมอยู่ๆมาสรุป ลูกคนเป็นผู้เสียหาย ตนเสียหาย ต้องมาเสียลูกไป เบื้องต้นได้สอบปากคำแค่คร่าวๆ กระบวนการกฎหมายของประเทศเราต้องมีความยุติธรรม ไม่ใช่แค่ตนที่รู้สึกขัดแย้ง ทั้งคนเป็นญาติ เป็นเพื่อน รอบๆข้างทุกคนข้องใจกันหมด ถ้ารู้สึกว่าลูกตนไม่ได้รับความยุติธรรมก็คงต้องไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรม

ทางด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า ทั้งเพื่อนลูก ทั้งครู และตำรวจ ตั้งแต่ผู้การจังหวัด และผู้กำกับ แต่ละคนให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งทางคุณแม่ไม่เชื่อใจว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานมาค่อนข้างขัดแย้ง ด้วยนิสัยของลูกเขาไม่น่าจะมาถึงจุดนี้ ซึ่งตนคุยกับคุณแม่ทั้งคืน และประมวลดูแล้วเขา 2 คน ทั้งน้องโชคกับคู่กรณีไม่น่าจะเป็นเพื่อนรักกันอย่างที่เป็นข่าว

ทนายโป้ง เปิดเผยด้วยว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือพิสูจน์หลักฐานไม่พูดอะไรเลย สภาพศพที่คุณแม่เจอ ญาติเจอ มันขัดแย้งข้อเท็จจริง วิถีกระสุนเป็นแนวขึ้นไม่กดลง ไม่น่าจะปืนลั่น ชาวบ้านยังสงสัยว่าสิ่งที่ตำรวจพูดมันเป็นยังไง วันนี้ตนเลยนัดหมายผู้กำกับและรองผู้กำกับฝ่ายสอบสวนว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงยังไง คุณแม่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลยทั้งที่เป็นผู้เสียหาย