เปิดใจ พ่อ-แม่ “น้องต้า” ประกันตัวลูกชายด้วยวงเงิน 1 หมื่นบาท หลังจากนี้จะรับกลับไปดูแลเอง
ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 เวลา 14.00 น. สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนระเบิดใส่นักเรียน จึงรุดเดินทางไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ น้องโชค อายุ 15 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยปอเต็กตึ๊งเร่งปั้มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ กระทั่งต่อมาเมื่อตำรวจควบคุมตัวเพื่อนในห้องเกิดเหตุไปสอบปากคำ มีเพื่อนคนหนึ่งยอมรับว่า เอาปืนไปโรงเรียน และขณะเกิดเหตุเกิดปืนลั่น
- ไม่ใช่คีย์บอร์ดระเบิด! เพื่อนยอมรับทำปืนลั่นใส่ ม.3 ดับคาห้องคอมโรงเรียน
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ แม่และพ่อเลี้ยง “น้องต้า” ผู้ก่อเหตุทำปืนลั่นใส่เพื่อนนักเรียน ม.3 เสียชีวิต ได้เดินทางมาเก็บข้าวของใช้ของน้องต้า เพื่อกลับไปอยู่ในความดูแลของครอบครัว หลังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ให้ประกันตัวในวงเงิน 10,000 บาท พร้อมตั้งเงื่อนไขต้องอยู่ในความดูแลของครอบครัว และรายงานตัวเดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 4 ครั้ง
แม่น้องต้า กล่าวว่า น้องได้ประกันตัวแล้ว ศาลให้ประกันตัวมาเรียนหนังสือ แต่ก็ยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่อยู่ ตนดีใจที่ลูกได้ประกันตัวกลับบ้าน และก็เสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียด้วย ซึ่งตนไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ สงสารเขาเหมือนกัน น้องไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ได้รู้จากข่าวกับทางตำรวจแค่นั้น เขาบอกปืนของเพื่อน แต่ไม่ทราบว่าของใคร ตนไม่รู้เรื่อง รู้ข่าวแค่ตอนที่ตำรวจโทรไปหา ก่อนหน้านั้นก็ไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนเพื่อนที่บางบัวทองก็ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหนอาจจะเป็นเพื่อนเก่า หลังจากนี้พ่อแม่จะดูแลน้องเอง ได้คุยกับหลวงพ่อแล้ว ศาลให้อยู่ในความควบคุมของพ่อแม่ ไม่ให้ไปอยู่กับพระ หลังจากนี้พ่อจะเป็นคนไปส่งน้องไปโรงเรียน จะไม่ให้เขาใช้รถส่วนตัว และดูแลเขาเอง
ตนไปยืมเงินเขามา 10,000 บาท เพื่อประกันตัวลูก และต้องรายงานตัว 4 ครั้ง (เดือนละ 1 ครั้ง) ต้องทำตามเงื่อนไขที่ศาลบอก ผู้ปกครองก็ต้องดูแล ห้ามเที่ยว ห้ามออกกลางคืน
แม่น้องต้า เล่าด้วยว่า ลูกชายมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ หลังพ่อของเขาเสียชีวิต โดยมีหลวงตาอุปถัมภ์ดูแลทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียนและค่าใช้จ่าย เพราะว่าหลวงตาสงสาร และตนเองก็ดูแลไม่ได้ น้องจะคอยช่วยเหลือหลวงตาโดยออกตามบิณฑบาต ตามปกติแล้วน้องมีปัญหาน้องไม่เคยเล่าหรือบอกอะไรกับแม่ ผลการเรียนน้องปานกลางได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 2 กว่าเขาเป็นลูกชายคนโต มีน้องอีก 1 คน เมื่อตนมีเวลาตนก็จะเข้ามาดูแลลูกบ้างเป็นบางครั้ง เวลาน้องเขามีปัญหาก็ไม่เคยโทรมาหรือบอกอะไรแม่เลย ปกติน้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรแจ้งตน โดยบอกให้ตนเดินทางไปที่โรงพักเพราะน้องมีเรื่อง ตนไปที่โรงพักน้องก็ไม่ได้พูดอะไรตนรู้ตามที่เป็นข่าว
หลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ถามลูก ซึ่งลูกก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องเขาก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ น้องเสียใจจนไม่อยากกลับไปเรียนที่เดิม และหวาดกลัวด้วย แต่เจ้าหน้าที่ศาลบอกให้น้องต้องกลับไปเรียนหนังสือที่เดิม และต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ เพราะว่าที่ศาลท่านเมตตาให้ประกันตัว เพื่อให้น้องออกมาเรียนหนังสือ วันนี้ก็เลยต้องมาเก็บของให้น้องไปพักอยู่กับตนที่บ้านเช่าหลังวัด
หลังประกันตัวตนก็ได้พูดสั่งสอนลูก ว่าต่อไปนี้พ่อแม่จะไปส่งที่โรงเรียน และให้ลูกเป็นเด็กดี อย่าทำเรื่องอะไรแบบนี้อีก ซึ่งลูกก็ให้คำสัญญา และตนก็ให้ลูกเลิกคบเพื่อนกลุ่มเก่าๆ 4-5 คน ไม่ให้ไปยุ่งกับเขา ให้ลูกทำงาน เหมือนเมื่อก่อนที่เคยทำเป็นเด็กส่งพิซซ่า ซึ่งปกติน้องเขาก็เรียนด้วยทำงานด้วย หารายได้พิเศษ ตอนที่ทราบข่าวตนเองก็ตกใจ แม่ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น