เมินดราม่า สาวดูแลปู่ของสามีผู้ล่วงลับ ชาวเน็ตวิจารณ์ไม่เหมาะ นอนคุยกันบนเตียง

สาวดูแลปู่ของสามีผู้ล่วงลับ แต่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ไม่เหมาะสม” หลังมีภาพนอนคุยบนเตียงเดียวกัน

เว็บไซต์ hk01 รายงานว่า หยู่ หญิงวัย 30 ปี ในจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ซึ่งสูญเสียสามีไปเมื่อปีที่แล้ว และคุณปู่วัย 80 ปี ของสามีของเธอ เสียใจอย่างหนักที่สูญเสียหลานชายไป

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณปู่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เนื่องจากปัญหาทางร่างกาย โดย หยู่ ผู้เป็นหลานสะใภ้ ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอขณะที่เธอและคุณปู่ของอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเพื่อพูดคุยกัน ช่วงเวลาอันอบอุ่นเหล่านี้ได้รับคำชม และให้กำลังใจจากชาวเน็ตมากมาย

แต่ชาวเน็ตบางคนตั้งคำถาม เพราะมองว่าทั้งสองไม่ใช่ปู่และหลานกันจริงๆ “นอนเตียงเดียวกันไม่อายบ้างหรือ” ผลที่ตามมาทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ก่อนหน้านี้ ในปี 2019 สามีของหยู่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับระยะลุกลาม หลังจากทำงานหนักเพื่อหาเงินสองสามีภรรยา ซึ่งเปิดร้านตัดผม เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ได้ 1 เดือน ข่าวร้ายดังกล่าวเหมือนฟ้าถล่ม หลังจากนั้นพวกเขาตัดสินใจปิดร้านและไปรักษาที่เซี่ยงไฮ้ สามีของเธอต่อสู้กับโรคนี้มา 2 ปี ก่อนเสียชีวิตในเดือนสิงหาคมของปีก่อน ด้วยวัยเพียง 32 ปี

แม้ว่าความรับผิดชอบทั้งหมดจะตกมาอยู่ที่เธอ แต่หยู่ก็ยังใช้ชีวิตแบบคิดบวก พยายามดูแลลูกสาววัย 11 ปี และลูกชายวัย 8 ขวบ อย่างดี

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิต หยู่พบว่าคุณปู่ของสามี ไม่เพียงแต่น้ำหนักลดมากเท่านั้น แต่ยังมักจะนอนร้องไห้บนเก้าอี้โยกเพียงลำพัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขามีสุขภาพดี เห็นได้ชัดว่าการสูญเสียหลานชาย ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเขา เมื่อเห็นเช่นนี้หยู่รู้สึกใจสลายมาก และตระหนักว่าเธอต้องดูแลคุณปู่ของสามีให้ดีที่สุด เพื่อสามีของเธอ

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณปู่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเล็กน้อยเนื่องจากอาการป่วย และหยู่ได้โพสต์คลิปหลายคลิป เกี่ยวกับการดูแลคุณปู่บนแพลตฟอร์มโซเชียล เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน

โดยเธอได้ขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับคุณปู่ในโรงพยาบาล เพื่ออ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบนโทรศัพท์มือถือให้เขาฟัง และยังทำให้คุณปู่มีความสุขด้วยการพูดคุย ซึ่งได้รับคำชมจากชาวเน็ตจำนวนมาก ที่มองว่าเธอเป็นคนกตัญญูและเป็นภาพที่อบอุ่น

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางคนยังแสดงความคิดเห็นว่า “ไม่ใช่คุณปู่ของคุณ การนอนด้วยกันมันไม่น่าอายเหรอ?” ผลที่ตามมาจากข้อความดังทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างหนัก

ด้าน หยู่ กล่าวว่า หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป เธอได้รับกำลังใจจากผู้คนมากมาย และเธอก็พบกับความคิดเห็นเชิงลบเช่นกัน แต่เธอย้ำว่าจะไม่แคร์ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นเชิงบวกหรือเชิงลบ เธอรับได้ เพราะเธอเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง

เธอยังเผยอีกว่า คุณปู่ของสามีกำลังหายดี และเธออยากจะให้เกียรติคุณปู่จากก้นบึ้งของหัวใจ และไม่คิดอย่างอื่น

“หลังจากที่สามีของฉันจากไป เขา (ปู่) ยังบอกฉันด้วยว่า จากนี้คุณเป็นหลานสาวของฉัน ไม่ใช่หลานสะใภ้ และบอกลูกทั้งสองว่าอย่าทำให้แม่โกรธ”