เปิดใจ “อาย วราไพรินทร์” ฉายานางฟ้า Forex-3D ลากไส้ติดคุกทั้งขบวนการ เจอภัยมืดข่มขู่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
นับเป็นดาราสาวคนแรกที่ออกมาสู้กับขบวนการแชร์ลูกโซ่ Forex-3D อย่างไม่กลัวเกรงอิทธิพลภัยมืด จนถูกยกให้เป็นนางฟ้า Forex มือปราบที่ลากไส้จนติดคุกทั้งขบวนการ สำหรับ อาย-วราไพรินทร์ ธนวริสพร นักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงจากละคร สงครามนางงาม และผันตัวมาเป็นนักธุรกิจสาวไฟแรง ถึงแม้จะถูกภัยมืดมาเฟียพันล้านหมื่นล้านข่มขู่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ขอทำหน้าที่ทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สิ้นสุด
โดย อาย วราไพรินทร์ เผยความในใจว่า “อายเชื่อว่าบางคนที่โดนคดี เขาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงใคร อาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และมันมีผลประโยชน์อยู่ในนั้น ไม่อยากให้ไปซ้ำเติมใคร ตัวอายเองก็พูดแบบไม่อายใคร ว่าตอนที่เราลงทุนกับ Forex-3D เพราะความโลภ เห็นว่ามันทำผลกำไรให้กับเราเยอะ ไม่ศึกษาให้ดี เพราะความเชื่อมั่นในรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ที่ดูอินเตอร์ มีบุคคลที่น่าเชื่อถือลงทุน ก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจ ซึ่งเหยื่อแต่ละคนกว่าห้าหมื่นคนก็คงคิดแบบนี้”
“หากการลงทุนมันตรงไปตรงมา เชื่อว่าทุกคนยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ แต่ Forex-3D มันมีการวางแผนกลโกงไว้ล่วงหน้า แรก ๆ ทำให้นักลงทุนต่าง ๆ เกิดความชะล่าใจ มีการจ่ายเงินที่ตรงเวลา ภาพ ใบอนุญาต อ้างถึงแบงค์ชาติ เมื่อมีนักลงทุนมากขึ้น ยอดเงินมากขึ้นจนเป็นที่พอใจของเจ้าของวงแชร์ จากนั้นก็เข้าสู่ขบวนการล้มแชร์ จึงทำให้มีผู้เสียหายออกมาเรียกร้อง หากวันนั้นอายไม่กล้า หรือไม่ตัดสินใจออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย หลาย ๆ คนเป็นเหยื่อในแชร์อื่น ๆ ได้อีก จำนวนผู้เสียหายอาจจะเป็นแสนเป็นล้านคน”
“ถ้าอายไม่ออกมาสู้ก็ยังมีอีกหลายคนหลงเชื่อเพราะตอนนั้นนักลงทุนหลายคนยังเชื่อว่า Forex-3D ไม่มีทางล้ม มาคุกคามต่อว่า อ้างเส้นสายข่มคู่เรา และครอบครัวผู้เสียหายท่านอื่นที่จะมาแจ้งความ แม้แต่คนมีชื่อเสียงหลาย ๆ คนก็ยังออกมาต่อว่าต่อขาน ว่าอายออกมาแจ้งความทำไม ทั้ง ๆ ที่แชร์ยังเป็นปกติ ซึ่งความจริงตอนนั้นมันไม่ปกติแล้ว มันไม่มีการจ่ายเงินแล้ว ขนาดอายและเหยื่อผู้เสียหายออกมาเรียกร้องแจ้งความ กว่าจะสืบจับกันได้ก็ใช้เวลาตั้ง 4 ปี”
“ผู้ร่วมขบวนการโยกย้ายถ่ายเทเงินไปที่อื่นเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ส่วนเงินหรือทรัพย์สินที่ยึดมาได้ ถ้าให้เฉลี่ยคืนผู้เสียหายก็ได้กันคนละไม่กี่บาท สำหรับอายไม่หวังว่าจะได้เงินคืนเลย หวังแค่ว่าคนที่ทำผิดต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย ต้องแยกให้ออกนะ บางคนบอกว่าอยากลงทุนเอง พอขาดทุนแล้วออกมาโวยวาย อายอยากจะบอกว่าที่ออกมาเรียกร้องไม่ใช่เพราะลงทุนแล้วขาดทุน การลงทุนมีความเสี่ยงมีได้กำไร มีขาดทุน แต่ Forex-3D มันคือขบวนการแชร์ลูกโซ่ที่วางแผนโกงคนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว”
“อายอยากจะเตือนนักลงทุนทุกคน ว่าการลงทุนอะไรก็ตามมันมีความเสี่ยง มีกำไร มีขาดทุน หากเป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น เล่นหุ้น หรือลงทุนตราสารกับธนาคาร มีกำไรขาดทุนมันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่มาถูกหลอกเพราะลงทุนกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่ แชร์ลูกโซ่มีหลายประเภทกลโกง บางทีเราอาจแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรากำลังลงทุนไปมันคือแชร์ลูกโซ่หรือไม่”
“จะมารู้ความจริงทีหลังก็ตอนแชร์ล้มหรือธุรกิจล้ม บางคนหมดตัว บ้านแตก ฆ่าตัวตาย หากเราไม่มีความถนัด เชี่ยวชาญ อย่าคิดลงทุนอะไรกับสิ่งล่อตาล่อใจข้อเสนอกำไรที่สูงเกินความเป็นจริง อย่าเชื่อมั่นแม้แต่คนมีชื่อเสียงว่าเขาจะไม่โกง มันก็มีให้เห็นหลายตัวอย่างโกงแทบทั้งนั้น. เป็นข่าวก็เยอะแถมติดคุกอีกต่างหาก”
“บางทีนักลงทุนอย่างพวกเราที่ลงทุนกันแบบซื่อ ๆ ก็อาจจะเข้าสู่ขบวนการโกงแบบไม่ได้ตั้งใจ ตัวอย่าง Forex-3D ที่มีคนมีชื่อเสียงหลายคนต้องโดนคดีไปด้วยช่วงที่อภิรักษ์กำลังจะโกง และหายตัวไป อายเพียงแต่อยากให้เขาหยุดอ้างคนใหญ่คนโตและออกมารับผิดชอบเท่านั้น ไม่อยากเห็นพี่ ๆ ในวงการท่านใดติดคุก เพราะเชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจโกง เพียงเพราะถูกต้นตอของวงแชร์มันหลอก ด้วยตัวเลขและผลประโยชน์จึงติดร่างแหไปด้วย”
“ถามว่าอายกลัวไหม ที่อายเป็นดาราเพียงคนเดียวที่ออกมาแจ้งความให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ต่อสู้ยืนเคียงข้างผู้เสียหาย ใครบ้างไม่กลัว โดนทั้งขู่หลากหลายรูปแบบ แต่อายก็ต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและเหยื่อทุกคน เพราะอายอยากเตือนสติคนที่คิดจะโกง หรือจะหลอกให้คนไทยหลงเชื่อ แชร์ที่ลงทุนน้อย ผลตอบแทนเยอะ”
“จากเหตุการณ์ Forex-3D มันจึงทำให้อาย และทีมงานที่มีความรู้เรื่องการลงทุน คิดทำโปรเจ็คต่าง ๆ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้ผู้นำในทุก ๆ องค์กร พัฒนาเป็นต้นแบบที่เก่งในทุก ๆ ด้าน เพื่อชื่อเสียงของตัวเอง องค์กร สังคม จนไปสู่ระดับประเทศ ไม่ให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียความเชื่อมั่นไปมากกว่านี้ ก่อนที่จะไม่ทีใครอยากมาลงทุน มาท่องเที่ยวประเทศไทย มากไปกว่านี้ และไม่โลภจนเผลอทำร้ายใครต่อใครให้เดือดร้อน”
“สุดท้ายอย่าถามว่าอายรู้สึกยังไง ที่เห็นคนในวงการติดคุก อายได้ทำหน้าที่ของอายส่งมอบหลักฐานที่มีไปตั้งแต่ 4 ปี ก่อนหมดแล้วค่ะ อายทำหน้าที่ของอายจบแล้วจากนี้ไปมันเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมแล้วจริง ๆ อายไม่รู้ด้วยว่า ใครจะเป็นจำเลยคนต่อไปในคดีนี้อีก หน้าที่ของอายคือ ไม่อยากเห็นใครตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่อะไรได้อีกแล้ว”