ว่าที่เจ้าสาวเรียกสินสอด เงินล้าน-บ้าน-รถ แม่สามีกัดฟันจัดให้ ก่อนเอาคืนตอนเข้าหอ ขอเช็ก “ทองพันชั่ง” ของลูกสะใภ้
หญิงสาววัย 23 จากมณฑลซานซี ประเทศจีน เธอมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม หุ่นเพรียวน่าดึงดูดใจ ผู้ชายหลายคนไล่ตามขายขนมจีบ แต่เพิ่งพบและตกหลุมรักกับผู้ชายที่เพื่อนแนะนำ เขาอายุ 26 ปี รูปร่างหน้าตาเป็นผู้ใหญ่ที่ดูดี และมีการศึกษาที่ดี
ทั้งคู่พึงพอใจซึ่งกันและกันมาก หลังจากลองคุยกันระยะหนึ่งพวกเขาก็กลายเป็นคู่รักกันอย่างรวดเร็วและตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุด อย่างไรก็ตามในระหว่างขั้นตอนการแต่งงาน ทั้งสองครอบครัวก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับข้อตกลงสินสอดทองหมั้น
ครอบครัวฝ่ายหญิงยืนยันว่าสินสอดทองหมั้นที่เจ้าบ่าวต้องจ่ายให้เจ้าสาวคือ 300,000 หยวน (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) บ้านในเมืองต้องเป็นชื่อของเธอ รวมทั้งรถยนต์ก็ต้องซื้อให้เป็นชื่อของเธอ ฝ่ายชายเก็บเงินทั้งหมดมากพอสำหรับซื้อบ้านและรถ แต่ยังไม่รู้จะจัดการยังไงกับเงินสดจำนวน 300,000 หยวน ตามคำขอของครอบครัวฝ่ายหญิง
ดังนั้นชาวหนุ่มจึงต้องการปรึกษากับแฟนสาวของเขา ว่าจะขอลดจำนวนเงินลงสักหน่อย หรือจะจ่ายบางส่วนก่อนแล้วค่อยจ่ายส่วนที่เหลือทีหลังได้ไหม แต่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าหากไม่สามารถหาเงิน 30,000 หยวน มาให้ได้ งานแต่งงานก็จะไม่เกิดขึ้น
ในที่สุดครอบครัวของฝ่ายชายก็ต้องกัดฟันยืมญาติพี่น้องทุกคน เพื่อรวบรวมเงินให้ได้มากพอที่จะแต่งงาน ด้วยเหตุนี้งานแต่งงานของพวกเขาจึงดำเนินไปอย่างราบรื่น
แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงง่ายๆ เพียงแค่นั้น ในคืนวันแต่งงานของคู่รักหนุ่มสาว สถานการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ความจริงที่ว่าครอบครัวของเจ้าสาวเรียกร้องค่าสินสอดสูงเกินไปนั้น ติดอยู่ในใจของพ่อแม่เจ้าบ่าวมาตลอด ดังนั้นในคืนวันแต่งงานของทั้งคู่ แม่สามีจึงเข้ามาในห้องหอแล้วหยิบผ้าปูที่นอนสีขาวมาปูบนเตียง และการกระทำไม่มีปี่มีขลุ่ยนี้ก็สร้างความประหลาดใจและความไม่สบายใจให้กับว่าที่เจ้าสาวคนใหม่
แน่นอนว่าด้วยความที่เจ้าสาวเองก็โตเป็นสาวแล้ว จึงเข้าใจเจตนาของการกระทำของแม่สามีเป็นอย่างดี แต่เธอก็ยังรอให้แม่สามีออกไปจากห้องหอก่อน แล้วจึงถามสามีของเธอว่า “ทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร” เจ้าบ่าวก็ตอบกลัยมาทันทีว่า “ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ แม่ของผมก็อยากตรวจร่างกายนิดหน่อย ก่อนหน้านี้ผมบอกคุณว่าให้ตรวจก่อนแต่งงาน แต่คุณไม่เห็นด้วย ในขณะที่ครอบครัวของผมทุ่มเงินไปมาก มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะตรวจสอบแบบนี้”
หลังจากฟังคำพูดของสามีแล้ว เจ้าสาวรู้สึกรู้สึกโกรธและไม่พอใจอย่างมาก และทั้งสองก็เริ่มโต้เถียงกันรุนแรงขึ้น จากที่คิดว่าจะมีคืนแต่งงานที่โรแมนติกและเร่าร้อน ทั้งคู่กลับตั้งหน้าตั้งตาโต้เถียงกันอย่างตึงเครียด
ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็จุดประเด็นการโต้เถียงกันในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ผู้สนับสนุนฝ่ายเจ้าบ่าวบางคนกล่าวว่า สังคมจีนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับประเด็นการหมั้นหมายเป็นอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ผลที่ตามมามากมาย ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ก็เห็นอกเห็นใจกับอารมณ์ของเจ้าสาว เนื่องจากพฤติกรรมแย่ๆ ของแม่สามี การขอทดสอบพรหมจรรย์ในคืนวันแต่งงาน ก็ไม่ต่างอะไรกับการต้องการขัดใจลูกสะใภ้