“เจมส์” พร้อมเปิดอู่ลูกคนที่สอง “ครูก้อย” เข็ดวิธีธรรมชาติ ขอพึ่งหมออีกครั้ง

เพิ่งทุ่มเงินสร้างบ้านกว่า 50 ล้าน สำหรับอดีตนักร้องดัง เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ กับ ครูก้อย นัชชา ภรรยาสุดที่รัก หลังใช้ชีวิคู่จนมีลูกสาว น้องเมดา วัย 3 ขวบ เข้ามาเติมเต็มครอบครัวให้อบอุ่น ล่าสุดถึงเวลาที่ทั้งคู่พร้อมเปิดอู่อีกครั้ง เตรียมผลิตทายาทคนที่สอง แถมได้ข่าวว่าจะย้ายตัวอ่อนกันต้นปีนี้แล้วด้วย 

โดย เจมส์ เรืองศักดิ์ เผยว่า เราเคยมีปัญหามีบุตรยากมาก่อน และผ่านกระบวนการรักษาผู้มีบุตรยากมาแล้วทุกกระบวนการ และด้วยครูก้อยเองเป็นครูวิทยาศาสตร์ และศึกษาความรู้ งานวิจัยเกี่ยวกับผู้มีบุตรยาก และโภชนาการเตรียมตั้งครรภ์ทั้งในและต่างประเทศ จนนำมาปรับใช้และดูแลตัวเอง และเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์”

“จากที่เคยผิดหวังมาหลายครั้ง และกลับมาดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตามหลักโภชนาการ เสริมภาวะเจริญพันธุ์ก็ประสบความสำเร็จในครั้งนั้น ได้ลูกสาวคนแรก น้องเมดา ตอนนี้อายุ 3 ขวบกว่าจะ 4 ขวบแล้ว คือเราตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนแรกให้ได้รับความรักอย่างเต็มที่ก่อน ตอนนี้เมดาก็โตพอที่จะรู้เรื่อง และรับรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังเตรียมมีน้องให้เมดาที่มาจากกระบวนการทำอิ๊กซี่เหมือนกับเมดา”

ด้าน ครูก้อย เล่าว่า “ครูก้อยเลือกที่จะทำอิ๊กซี่ต่อ เนื่องจากว่าครูก้อยไม่ต้องการให้ธรรมชาติคัดสรร เพราะครูก้อยเคยท้องธรรมชาติแล้วแท้ง ตอนนั้นอายุยังน้อย 33-34 ปี คิดว่าหลังแต่งงานปล่อยก็ติด แต่ก็ติดจริงๆ แต่แท้งตอน 3 เดือน ครูก้อยเสียใจมากและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”

“ผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จึงตัดสินใจทำอิ๊กซี่ ซึ่งก่อนเข้าสู่กระบวนการทำอิ๊กซี่ครูก้อยศึกษางานวิจัยเยอะมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งงานวิจัยเกี่ยวกับผู้มีบุตรยากและโภชนาการเสริมภาวะเจริญพันธุ์ และนำมาบำรุงดูแลตัวเองก่อนเข้าสู่กระบวนการแพทย์ และประสบความสำเร็จตั้งครรภ์น้องเมดา ในวัย 35 ปี”

“สำหรับลูกคนที่ 2 มาจากการทำอิ๊กซี่เช่นกัน ซึ่งมีตัวอ่อนที่คัดโครโมโซมผ่านฟรี๊ซไว้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นครูก้อยอายุ 37 ปี เชื่อไหมว่าการบำรุงของครูก้อยที่เป๊ะมากๆเป็นปีๆ ในวัย 37 ปี ครูก้อยได้ไข่ดีกว่า จำนวนมากกว่า มีคุณภาพมากกว่าวัย35ปี  ครั้งนั้นครูก้อยได้ตัวอ่อน 4-6 ตัว ปรากฏว่าในวัย 37 ปี”

“ครูก้อยได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ 10 ตัว จากไข่ 13 ฟอง ปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน 12 ตัว และเลี้ยงไปจนถึงระยะบลาสต์โตซิสต์ 10 ตัว ซึ่งเป็นอะไรที่เกินสถิติมากๆ และทุกวันนี้ยังมีลูกสแปร์ไว้คัดโครโมโซมผ่านแล้ว เพศหญิง 1 เพศชาย 1 พร้อมที่จะฝังตัวอ่อน เหมือนเป็นเคสสตัดดี้ให้แม่ๆ เห็นว่า ถ้าคุณเตรียมตัวดี โอกาสความสำเร็จก็มีสูง”

“ตอนนี้ครูก้อยอยู่ในช่วงเตรียมผนังมดลูก คาดว่าจะย้ายตัวอ่อนช่วงเดือน มี.ค. และ เม.ย. เพราะอยากให้ลูกคลอดตอนมกราคม ปี2567  ซึ่งเป็นเดือนเกิดเดือนเดียวกันกับครูก้อย ส่วนน้องเมดาลูกคนแรกเกิดเดือนเดียวกันกับพี่เจมส์เดือนมีนาคม”

“ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนบำรุงผนังมดลูก ตามหลักการแพทย์คือหนา 8 – 10 มิลลิเมตร ผนังมดลูกใสเป็นวุ้น  เลือดไหลเวียนดี ไม่มีสารพิษตกค้าง เพื่อที่ตัวอ่อนจะได้ฝังตัวได้ดีและติดในครั้งแรก ซึ่งโอกาสจะติดไม่ติดขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอ่อนว่าตัวอ่อนแข็งแรงไหม คัดโครโมโซมผ่านไหม  ซึ่งลูกๆ ของครูก้อยผ่านกระบวนนั้นมาหมดแล้ว คัดโครโมโซมผ่านแล้ว เนื่องจากมีการบำรุงเตรียมตัวก่อนกระตุ้นไข่มาเป็นอย่างดี”

“สำหรับผู้ที่รู้ตัวอยู่แล้วว่ามีบุตรยาก ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุว่าผู้หญิงมีปัญหาอะไร ผู้ชายมีปัญหาอะไร เพื่อรักษาภาวะผู้มีบุตรยากและเลือกเทคโนโลยีการรักษาได้ตรงจุด แต่อย่างไรก็ตามการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นก่อนกระตุ้นไข่เพื่อทำ IUI หรือ ICSI ผู้หญิงเราก็ต้องดูแลตัวเอง ทานอาหารที่ช่วยบำรุงไข่ ส่วนผู้ช่วยก็ต้องมีการบำรุงเสปิร์ม เพราะสุดท้ายการจะประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ขึ้นอยู่กับระบบภายในของเรา ขึ้นอยู่กับคุณภาพไข่ และคุณภาพสเปิร์ม ครูก้อยอยากจะฝากผู้มีบุตรยากว่าการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จมาก”