“อู๊ด เป็นต่อ” เปิดใจ เล่าช่วงชีวิตที่แย่จนคิดจะเป็นโจร ถึงขั้นมีความในใจกับหมอนข้าง

นับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงอารมณ์ดีที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ตลอด สำหรับ อู๊ด เป็นต่อ หรือ หรือ ธีระชาติ ธีระวิทยากุล ซึ่งกว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จได้เหมือนทุกวันนี้ อู๊ด เป็นต่อ นับว่าเป็นคนสู้ชีวิตอีกคนเพื่อดีดตัวเองจากศูนย์จนก้าวสู่ความสำเร็จ โดยเริ่มจากมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตตั้งแต่เด็ก จึงออกจากบ้านไปเป็นลูกวงดนตรีกะท้อน และ ซูซู และตั้งวงดนตรีกับเพื่อนๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

จนได้เข้ามาร่วมเป็นนักแสดงตลกคณะ เหลือเฟือ มกจ๊ก โดยเล่นเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิต แอ๊ด มกจ๊ก ก็อปปี้เป็น แอ๊ด คาราบาว และจากการที่เขาได้การแสดงตลกนี้ก็ได้ไปสะดุดตาผู้กำกับละครซิทคอม เป็นต่อ จึงได้ติดต่อให้เข้ามาร่วมแสดง และ จากนักแสดงซิทคอมยอดนิยม เป็นต่อ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองชัดเจน ส่งให้ อู๊ด เป็นต่อ เป็นนักแสดงที่มีผลงานผ่านละคร และบทบาทของพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมมาหลากหลายบทบาท พร้อมยังทำธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์ ร้านชาบู ที่มีชื่อว่า ชาบูอู๊ด เป็นต่อ อีกด้วย

แต่แม้เรื่องราวทุกอย่างในชีวิตของเขาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ถึงวันนี้ อู๊ด เป็นต่อ ก็ไม่เคยลืมอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ชีวิตไม่ได้สะดวกสบาย

เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 อู๊ด เป็นต่อ ได้เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือกกับเรื่องราวชีวิตและความรักครั้งแรกที่นี่กับปมที่อยู่ในใจ ยากจนถึงขนาดตอนน้ำท่วมกินข้าวนั่งดูอุจจาระ

พร้อมรับเคยน้อยเนื้อต่ำใจที่บ้านจน ทำไมไม่มีอย่างเพื่อนคนอื่นเขา ถึงขนาดมีความฝังใจกับหมอนข้าง ชีวิตนี้อยากจะมีหมอนข้างสักใบหนึ่ง ในเมื่อทำดีแล้วไม่ได้ดี..โชคชะตาจึงวัดใจให้ อู๊ด เป็นต่อ คิดจะเป็นโจรกระชากสร้อย และเรื่องนี้ที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน เมื่อไปส่งผู้หญิงที่ชอบและขอเขาค้างที่บ้านด้วยได้ไหม? พร้อมกับยอมรับเคยนอกลู่นอกทางอย่าคิดว่าไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ เมื่อความลับแตกโดนภรรยาจับได้ว่าวอกแวกคุยกับสาวอื่น

อู๊ด เป็นต่อ เล่าถึงเรื่องชีวิตที่เคยลำบากขั้นสุด และเปิดเรื่องความรักที่ไม่เคยพูด

ไม่เคยไปคุยเรื่องความรักที่ไหนเลย ?
“พอได้ยินชื่อรายการปุ๊บ ขนหัวลุกขึ้นเลย”

ที่ไม่เคยไปคุยเรื่องความรักเพราะว่า พี่อู๊ด เองมีปมอย่างหนึ่งคือ เหมือนกับเราไม่มั่นใจในตัวเอง ?
“บ้านเรายากจนพ่อแม่เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน 7 คน ไม่เกินสามคูณสามเมตร ไม่สามารถจะดิ้นได้ นอนแล้วล็อกแล้วล็อกเลยเวลาเข้าห้องน้ำหนักเอากระดานพาดนะครับ ไม่มีส้วม พอน้ำท่วมคือลอยมาเลย เราก็กินข้าวแต่ก็นั่งดูอุจจาระ”

มีความในใจกับหมอนข้าง ?
“ใช่ครับ บ้านผมไม่สามารถมีหมอนข้างได้ เพราะมันแคบ แล้วไปเจอบ้านเพื่อนที่เขามีห้องส่วนตัวใหญ่มากเลย หรูหรามีหมอนข้างมีทุกอย่าง ผมเลยแบบนอนเลย เหมือนว่ายอยู่บนที่นอน มาดูบ้านตัวเองน้อยเนื้อต่ำใจนะครับ ทำไมพ่อเราไม่มีเหมือนเขาเราคือคนจนอยากจะมีหมอนข้างสักใบหนึ่ง”

ครั้งหนึ่งเคยมีความคิดเป็นโจรด้วย ?
“ในเมื่อมันทำดีแล้วไม่ได้ดีเป็นโจรดีกว่า ผมจะกระชากสร้อยคนแล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่สร้อยทองเห็นมาแต่ไกลเดินไปแล้วก็เลี้ยวเข้าซอย ผมคิดในใจถ้ากลับมาเอาแน่น้องนั่นดันเดินกลับมาอีกมาก็เอาสิครับ”

สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พี่อู๊ด ไม่เคยเล่าที่ไหนจริงๆ คือเรื่องอะไร ?
“เราก็ได้ไปเปิดร้านคนที่เขาเป็นแฟนผม ณ ปัจจุบันเนี่ย เรามองปุ๊บ ชอบอีกแล้ว ก็ไปส่งเขาแล้วก็บอกขอไปนอนที่บ้านได้ไหม อันนี้ก็ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน เราก็ขึ้นไปบนเตียงไปกอดเขา แล้วบอกว่าขอได้ไหม”

เข้าวงการมามีวอกแวกไหม ?
“ไม่เหลือหรอกครับผู้ชาย สวยถูกใจด้วย ตอนนั้นผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง เครื่องหนึ่งให้ลูกสาวเล่น เครื่องหนึ่งเราเอาไปทำงานด้วย คุยกันเพลิดเพลิน ทางโน้นรู้หมด อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าทำอะไรอยู่”

ติดตามรับชมการก้าวเดินของคนสู้ชีวิต อู๊ด เป็นต่อ ได้ในรายการ Club Friday Show ในวัน เสาร์ ที่ 10 กันยายน 12.00 น. ทางช่องวัน31