อู้หู! “วิกรม กรมดิษฐ์” ยกเงินส่วนตัว 20,000 ล้านให้สาธารณะ แจงยิบให้เอาไปทำอะไรบ้าง

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจมอบทรัพย์สินส่วนตัวในสัดส่วน 95% มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ให้กับสาธารณะ ภายใต้การบริหารจัดการของมูลนิธิอมตะ

ซึ่งเงินในส่วนนี้จะนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ 6-7 โครงการ โดยเฉพาะในเรื่องของทุนการศึกษา การทำหนังสือด้านความรู้ สร้างงานและอาชีพ ดูแลรักษาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขาใหญ่ รวมถึงอุทยานต่าง ๆ การสร้างบุคลากร การสร้างนวัตกรรม เช่น การพัฒนาหาบุคลากรอัจฉริยะเพื่อมาช่วยในการเดินหน้าโครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) 

โดยวิกรมบอกว่า ทรัพย์สินที่ตนจะมอบให้มูลนิธิ เช่น คอนโดมิเนียม ปราสาทอมตะคาสเซิล ที่ดิน และบ้านพักที่เขาใหญ่ รถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่ตนสะสมมานานแล้ว เช่น รถยนต์ลัมบอร์กินี ปอร์เช เฟอรารี่ หุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ตนอายุครบ 70 ปี ใช้เวลาในการสร้างทุกอย่างมาอย่างยากลำบาก เงินในส่วนนี้เป็นเงินส่วนตัวไม่ใช่เงินของครอบครัว ปกติจะลงทุนในหุ้น อสังหาริมทรัพย์

ที่ไม่ให้ 99% เพราะจะเหลือเงินส่วนหนึ่งประมาณ 200-300 ล้านบาท เผื่อไว้ลงทุนส่วนตัวอีกเล็กน้อย อย่างการสร้างคฤหาสห์อมตะคาสเซิล ในพื้นที่สนามกอล์ฟ อมตะ สปริงค์ คันทรี คลับ จ.ชลบุรี ซึ่งส่วนนี้ลงทุนไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท ก็ยังคงลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ สิ่งที่ตนทำมาทั้งหมด เพื่อที่จะให้เป็นแรงบรรดาลใจให้กับคนที่มีเงินและเหลือเพียงพอ นำมาสู่การคืนแหล่งที่มาของการสร้างรายได้ คือ สังคม อย่างตน คือ หารายได้จากประเทศไทย ก็ต้องคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งตน ได้ประชุมร่วมกับครอบครัวพี่น้องตน เป็นมติเอกฉันท์ในการดำเนินการตามประสงค์ของตน

สำหรับแผนธุรกิจ ตนจะถอยจากบทบาทซีอีโอ ในอมตะฯ เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา ซึ่งจะทำหน้าที่คอยให้คำปรึกษา แนะนำ ดูนโยบายโดยไม่ลงมาเป็นระดับบริหาร ส่วนด้านงานบริหารทั้งหมดโครงสร้างองค์กรนับจากนี้ จะต้องมีตระกูลกรมดิษฐ์นั่งระดับบริหารไม่เกิน 3 คนเท่านั้น และควรผลักดันให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในบอร์ด กำหนดเป้าหมาย ดูนโยบาย และจะเปิดทางให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นซีอีโอ  

วิกรมกล่าวอีกว่า การไม่ยึดติดเรื่องของคนในครอบครัวมานั่งบริหารย่อมดีกว่า โดยสเปคที่ต้องการ คือ อายุระหว่าง 40-50 ปี คนเก่ง จบด้านวิศวะ สุขภาพดี และต้องมีหลักการในการบริหาร ซึ่งขณะนี้ได้แบ่งเค้กส่วนงานต่างๆ ออกเป็นก้อนและ Recruit บุคคลที่ต้องการเข้ามาบริหาร ตามเค้กที่แบ่งไว้

ดังนั้นเมื่อ CEO เข้ามาจะมีหน้าที่บริหารงานได้เต็มที่ ซึ่งจะทำให้อมตะฯ เติบโตได้ดี ซึ่งความฝันของตนและต้องการทำให้สำเร็จ คือการสร้างเมือง เมือง Smart City โดยเราร่วมมือกับหลายพาทเนอร์ หลายประเทศ อย่างโยโกฮามาประเทศญี่ปุ่น เพราะอมตะฯ เราไม่มีอะไรเลยเราเก่งแค่เรื่องพัฒนาที่ดินและให้บริการสาธารณูปโภค เราจึงต้องดึงเอาพาทเนอร์มาร่วมทำ  Smart City ของอมตะฯ จะต้องเป็นโมเดลต้นแบบเมืองตัวอย่างให้ได้

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า จะไม่เข้าสู่เส้นทางการเมืองแน่นอน เพราะไม่ใช่ไลฟ์สไตล์และสิ่งที่ชอบ และบุคคลที่จะอยู่ในการเมือง ตนมองว่าจะต้องเป็นบุคคลที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามภูมิอากาศ ซึ่งไม่เหมาะกับตนแน่นอน 

ส่วนนายกรัฐมนตรีที่ตนต้องการอยากได้ วิกรมบอกว่า นายกฯ จะเป็นใครก็ได้ที่ทำ 3 เรื่องนี้ได้ และเราอยากได้คนแบบลีกวนยู หรือนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

1.จะต้องเป็นบุคคลที่ทำงานเป็นด้านเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้ GDP โต 6-7%

2.ใช้กฎหมายบังคับและบทลงโทษให้จริงจัง

3.ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ดี