อดีตตำรวจวัย 68 ซัดลูกซองใส่เพื่อนบ้านดับสลดคาวงกินเลี้ยงปีใหม่ เพื่อนบ้านเผยวีรกรรมสุดเอือม พกปืนประจำ ด่าคนอื่นไปทั่ว
นายธีรภัทร หรือ อาร์ม อายุ 20 ปี ถูก ร.ต.ท.เบญจรัตน์ อายุ 68 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ใช้ลูกซองยาว เบอร์ 12 ยิงใส่จำนวน 1 นัด กระสุนถูกบริเวณใบหน้าและลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะถูกนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ซำสูง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2565 ภายในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์บ้านคูคำ อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ บ้านคูคำ อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น พบรอยเลือดอยู่ที่พื้น และพบรอยกระสุนปืนลูกซองอยู่ติดกับต้นเสาใกล้กับที่เกิดเหตุ
สอบถามนายธนโชติ หรือต้น อายุ 27 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้ชวนเพื่อนคือ นายสุรชัย หรือ ชัย อายุ 22 ปี และ นายธีรภัทร หรือ อาร์ม ผู้ตาย มานั่งรับประทานอาหารและเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ที่บ้าน ขณะนั้น ร.ต.ท.เบญจรัตน์ ผู้ก่อเหตุได้กลับมาที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับร้านซ่อม มีอาการเมาสุราและพูดจาเสียงดัง ก่อนที่จะเดินมาด่าบุพการีพวกตนที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ เนื่องจากไม่พอใจที่ตนเองสตาร์ทรถจักรยานยนต์เสียงดัง ก่อนที่จะมีปากเสียงกันสักพักแล้วจึงหยุดไป
กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ร.ต.ท.เบญจรัตน์ ได้เดินมาที่บริเวณกำแพงและใช้อาวุธปืนลูกซองเล็งมายังกลุ่มพวกตน ตนเองและนายชัย ได้วิ่งไปหลบอยู่หลังร้าน ระหว่างนั้นนายอาร์ม ได้พยายามที่จะนำมาถือมาบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ แต่ไม่ทันถูก ร.ต.ท.เบญจรัตน์ ใช้ปืนลูกซองยิงหนึ่งนัด ก่อนจะที่จะเดินกลับบ้านไป จากนั้นพวกตนจึงออกมาดูเห็นนายอาร์ม ถูกยิงกระสุนเข้าที่บริเวณลำตัวและใบหน้าและยังมีชีวิตอยู่ จึงได้โทรเรียกรถพยาบาลซำสูงให้มารับไปรักษาตัว แต่เนื่องจากนายอาร์มได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมากจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายต้น ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ร.ต.ท.เบญจรัตน์ เมื่อมีอาการเมาสุราจะมีนิสัยโหดร้ายคือชอบยิงปืนขึ้นฟ้าและด่าทอคนไปทั่ว จนคนในหมู่บ้านเอือมระอากับพฤติกรรมดังกล่าว จนไม่มีใครอยากสุงสิงด้วย ที่ผ่านมาตนเองก็ถูกด่าทอประจำ เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่ก็ไม่ได้ถือสาเพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เพราะ ร.ต.ท.เบญจรัตน์ เป็นอดีตำตำรวจ มีอาวุธปืนหลายชนิดพกติดตัว กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ญาติได้นำศพ นายธีรภัทร หรือ อาร์ม มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 120 บ้านคูคำ อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีบรรดาญาติและเพื่อสนิท มาร่วมพิธีด้วยบรรยากาศโศกเศร้า โดยนางบรรยง ไชยเดช อายุ 60 ปี ยายของนายอาร์ม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลานชายเป็นคนนิสัยดีไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่หลานชายเคยประสบอุบัติเหตุ จึงทำให้ร่างกายไม่ปกติ ก่อนเกิดเหตุหลานชายได้มาขออนุญาตไปร่วมกินเลี้ยงปีใหม่กับรุ่นพี่ที่ในหมู่บ้านพร้อมกับสะพายกระติบข้าวเหนียวออกไปด้วย
ราวๆ ห้าทุ่ม ได้มีผู้โทรศัพท์มาแจ้งว่าหลานชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บกำลังส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลซำสูง จึงรีบออกไปที่โรงพยาบาลแต่หลานชายเสียชีวิตแล้ว ตนเองถึงกับเป็นลมหมดสติไปทันทีเพราะเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าหลานชายจะมาจบชีวิตในลักษณะนี้ จึงอยากวิงวอนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรับผิดชอบคดีดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อครั้ง ร.ต.ท.เบญจรัตน์ ยังรับราชการอยู่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้งแต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือไล่ออกจากราชการ จึงเชื่อว่าน่าจะมีเส้นสายช่วยเหลือให้รอดพ้นคดีทุกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมในงานศพต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ร.ต.ท.เบญจรัตน์ เมื่อดื่มสุรามึนเมาจะมีนิสัยโหดร้ายด่าทอและทำร้ายร่างกายชาวบ้านไม่สนหัวขาวหัวดำ เพราะเป็นอดีตตำรวจมีอาวุธปืนหลายกระบอก บางครั้งก็ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าอยู่ในบ้านตัวเอง จนชาวบ้านหวาดกลัวและเอือมระอากับพฤติกรรมดังกล่าวไม่มีใครอยากสุงสิงด้วย
ด้านพันตำรวจเอกสวัสดิ์ ศรีแสนยง ผู้กำกับการ สภ.ซำสูง กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ขณะนอนพักอยู่ภายในบ้านพัก ซึ่งอยู่ติดกับร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุ ได้มีกลุ่มนายธีรภัทร ผู้ตาย ประมาณ 4-5 คน ซ่อมรถจักรยานยนต์และติดเครื่องรถจักรยานยนต์เสียงดัง ผู้ต้องหาจึงได้ออกมาบอกกล่าว ตักเตือน ไม่ให้เสียงดัง เกิดการโต้เถียงกัน ผู้ต้องหาโมโห จึงเข้าไปเอาปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 ออกมายิงใส่กลุ่มผู้ตาย 1 นัด ถูกผู้ตายบริเวณใบหน้า ญาติได้นำส่ง รพ.ซำสูง และเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.ซำสูง ส่วนผู้ต้องหา รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนของกลาง ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา