ร้านพวงหรีดเลือดนอง ผัวแทงเมียเก่า 15 แผล เผยคำพูดประโยคเดียวฟางเส้นสุดท้าย ลูกสาวแก้บนหัวหมู หลังพ่อมอบตัวไม่ถูกจับตาย
จากกรณีที่ พ.ต.ท.วุฒิ คงชื่น รอง ผกก.สืบสวน สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้าย นายจรัส อายุ 61 ปี ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง น.ส.สำอางค์ อายุ 38 ปี ลูกจ้างร้านรับทำพวงหรีด เสียชีวิต บริเวณริมถนนเส้นทางสายท่าตะโก-นครสวรรค์ เขตเทศบาลท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จำนวน 15 แผลเสียชีวิตคาร้าน มูลเหตุเบื้องต้นเกิดจากนายจรัสกับผู้ตายเลิกรากัน แต่ว่านายจรัสมาขอคืนดีอดีตภรรยาแต่ไม่สำเร็จนำมาซึ่งการลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแล้วหลบหนีไปได้ ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าตะโก ตำรวจสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ จัดชุดไล่ล่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดเช้าวันนี้ 4 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. นายจรัส ผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจเดินทางออกมาพบตำรวจสายตรวจ บริเวณตู้ยามตำรวจสี่แยกไดตาล ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี ขณะตำรวจสายตรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ จู่ๆ ผู้ต้องเดินมาเคาะประตูขอมอบตัว ในสภาพอิดโรย มือด้านซ้ายมีรอยมีดได้รับบาดเจ็บ สภาพร่างกายมีเลือดแห้งกรัง ตำรวจเห็นถึงกับตกใจไม่คิดว่าจะมีผู้ต้อหาเดินทางพบตำรวจ จึงนำตัวส่งร้อยเวรบันทึกประจำวัน ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะโกทันที เบื้องต้น พ.ต.ท.วุฒิ คงชื่น รอง ผกก.สืบสวน สภ.ท่าตะโก นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนร่วมพนักงานสอบสวน
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป้นคนลงมือแทงนางสาวสำอางค์ เนื่องจากแค้นที่มาขอคืนดีแล้วยังถูกปฏิสธ แถมถูกเย้ยว่ามีผัวใหม่แล้ว จึงโมโหทำร้ายร่างกายและแทงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุเดินเท้าลัดเลาะทุ่งนาไปในตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก เดินเท้าลัดทุ่งนาไปหลบในป่าในอำเภอไพศาลี คิดจะมอบตัวหลังก่อเหตุอยู่
พ.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาพยายามขอบอตัวตำรวจ แต่ไม่มีโอกาสเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ด้วยสภาพร่างกายบาดเจ็บทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางพบตำรวจสายตรวจ ตู้ยามตำรวจบริเวณสี่แยกไดตาล ท้องที่ สภ.ไพศาลี เพื่อขอมอบตัว ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะโก แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.พนักงานสอบสวนจึงนำตัวนายจรัสไปทำแผนยังร้านขายพวงหรีดจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางตำรวจสายตรวจ อพปร.หลายนาย จัดพื้นที่ป้องกันหวั่นว่าญาติผู้ตายจะทำร้านได้ จุดแรกนายจรัส ชี้จุดบริเวณที่ลงรถหน้าร้านขายพวงหรีด เพื่อเดินทางหาผู้ตายแล้วจูงมือมาคุยหน้าร้าน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ผู้ตายต่อว่าและยืนยันว่าไม่ขอคืนดี ประกาศ “มีผัวใหม่แล้ว” ทำให้นายจรัส โมโหสุดขีดชักปืนพกออกมาหวังยิงแสกหน้า แต่ว่าผู้ตายสามารถแย่งปืนไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่เกิดเหตุหลังผู้ตายแย่งปืนและเข้าร้านไป นายจรัส จึงเดินเข้าไปในร้านแล้วเกิดมีปากเสียงอีกรอบจนนำมาสู่การชัดมีดไม่แทงผู้ตายจำนวน 15 แผลเสียชีวิตคาร้าน หลังลงมือแล้วก็เดินออกไปหลังร้านปีนกำแพงหนีไปตามทุ่งนาตำบลทำนบ เดินเท้าไปยังอำเภอไพศาลี ไปกบดานในป่าในอำเภอไพศาลี ระหว่างหลบหนีเห็นโดรนตำรวจไล่ตามตลอดเวลา พยายามโบกมือเพื่อขอมอบตัวแต่โดรนไม่เห็นจึงหนีไปอยู่ในป่า 1 คืน แต่ว่ามืดซ้ายถูกมีดบาดได้บาดเจ็บจึงตัดสินใจมอบตัวดังล่าว
ด้าน นางสาว บี (นามสมมติ) ลูกสาวผู้ก่อเหตุ เดินทางมาพบพ่อ เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า จากการพูดคุยกับพ่อ ได้ความว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่านางสำอางค์ แม่เลี้ยง ที่อยู่กินจดทะเบียนกันมานานกว่า 10 ปี เพราะว่าแค้นที่ถูกหลอกให้ไปกู้เงินเป็นหนีสินหลายแสนบาท และสุดท้ายมาขอเลิกราและยังเย้ยหยันว่า มีผัวใหม่แล้ว มูลเหตุจึงมาจากเรื่องนี้เพราะความแค้นที่ถูกหลอก ความแค้นที่ทำให้เป็นหนีสิน เดินทางมาขอคืนดียังถูกเย้ยไม่กลับไปคืนดีด้วยและบอกว่ามีสามีใหม่แล้ว
ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่า พ่อและน้าสำอางจดทะเบียนอยู่กินกันนานแล้ว 8 ปี เมื่อก่อนพ่อไม่เป็นหนี้สินอะไร แต่น้าสำอางค์ แม่เลี้ยงให้พ่อไปกู้เงิน ธกส.เป็นหนีสินหลายแสนบาท ระยะหลังทั้งสองคนมีปากเสียงกันบ่อย และแม่เลี้ยงก็หนีออกจากบ้าน พ่อพยายามขอคืนดีหลายครั้ง แต่ว่าแม่เลี้ยงก็ส่งคลิป ส่งไลน์ ท้าทายกันหลายครั้ง ส่งคลิปผัวใหม่มาท้าทายด้วย นำมาซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องส่งเข้ากระบวนการยุติธรรมต่อไปไม่ติดใจอะไร
และว่าวันนี้มาเยี่ยมพ่อที่ สภ.ท่าตะโก ได้นำเอาหัวหมู ไก่ต้ม เหลาขาว มาแก้บนบริเวณหน้าห้องสืบสวน ข้างๆ สภ.ท่าตะโก เพราะว่าเมื่อวานพอทราบข่าวว่าพ่อเป็นผู้ต้องหา จึงบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าขอให้พ่อไม่ถูกตำรวจจับตายจะนำหัวหมูมาแก้บน วันนี้จึงนำหัวหมูมาแก้บนด้วย
ด้านนายจรัส หลังทำแผน เปิดเผยสั้นๆ สาเหตุหลักที่ลงมือแทงอดีตภรรยาเนื่องจากโกรธที่มาขอคืนดีไม่สำเร็จ และแค้นที่ผู้ตายมีสามีใหม่ทั้งที่ยังมีทะเบียนสมรสกับตนเองอยู่ ซึ่งพยายามขอมอบตัวตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ติอต่อตำรวจไม่ได้จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจตู้ยามสี่แยกไดตาล อำเภอไพศาลี เช้าวันนี้ หลังหลบหนีไปตั้งแต่เมื่อวาน