“ยายฉ่ำ” ยายพลทหารอาภัพ เหยื่อ ร.ล.สุโขทัย เผยบั้นปลายชีวิตหลังไร้หลานชาย

ผบ.ทรภ.1 รุดเยี่ยม ยายฉ่ำ วัย 78 ปี ยายพลทหารชลัช ที่เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยายฉ่ำเผย เสียใจที่หลานชายไม่อยู่แล้ว แต่ปั่นปลายชีวิตมีความสุขแล้วที่ได้กลับมาอยู่กับลูกสาว ไม่ต้องเหงาอยู่คนเดียวที่ จ.ชุมพร

วันนี้ 2 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1 ได้เดินทางไปเยี่ยม ยายฉ่ำ พรหมบังเกิด อายุ 78 ปี ชาวบ้านท่าไม้ลาย ต.วังใหม่ อ.เมืองจ.ชุมพร ซึ่งเป็นคุณยายของ พลทหารชลัช อ้อยทอง พลทหารหนุ่มผู้อาภัพที่ทำงานรับจ้างเลี้ยงดูยายมาตั้งแต่เล็ก กระทั่งมารับราชการทหาร และส่งเสียเลี้ยงดูยายฉ่ำเพียงลำพัง ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศแปรปรวน เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

ซึ่งล่าสุดยายฉ่ำมาพักอาศัยอยู่กับลูกสาว ซึ่งป่วยระบบสมองมาตั้งแต่กำเนิด และเป็นคุณแม่ของพลทหารชลัช ที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือ บ้านประจวบโชค อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์โดยมี นางไพทิพย์ หนูพรหม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ , นาวาเอกเรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รอง ผอ.ศรชล.จ.ประจวบคีรีขันธ์ และคณะให้การต้อนรับ

พลเรือโท พิชัย กล่าวว่า ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจยายฉ่ำ และแม่ของพลทหารชลัชพร้อมทั้งนำสิ่งของจำเป็นและเงินสำหรับใช้จ่ายเบื้องต้น มามอบให้ ทั้งนี้จากการสอบถามยายฉ่ำแล้วทราบว่า มาอยู่กับลูกสาวมีความสุขมากกว่าอยู่ จ.ชุมพร ซึ่งทางผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ อนุญาติให้พักอาศัยกับลูกสาวเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลเรื่องเงินช่วยเหลือ ที่มอบแก่ทายาทและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่เป็นเงินที่ยายฉ่ำ และแม่ของพลทหารชลัชได้รับ โดยเงินที่มอบให้ประกอบด้วย เงินจากกองทุนน้ำใจไทย เพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ เงินสวัสดิการกองทัพเรือ และเงินฌาปนกิจกองทัพเรือ และเงินตามสิทธิด้านกำลังพล เพื่อให้ยายฉ่ำและแม่ของพลทหารชลัช ได้รับเงินช่วยเหลือครบถ้วน

ทางด้านยายฉ่ำ คุณยายของพลทหาร ชลัช อ้อยทอง กล่าวว่า แม้เสียใจกับการจากไปของหลานชาย แต่ได้มีโอกาสมาอยู่กับลูกสาว รู้สึกมีความสุข ดีกว่าต้องอยู่คนเดียวที่บ้าน จ.ชุมพร โดยหลังจากนี้จะกลับไปใช้หนี้ให้หลานที่บ้าน จ.ชุมพร จำนวน 2 หมื่นบาท และจะกลับมาอยู่กับลูกสาวที่ประจวบคีรีขันธ์