เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของ “นิโคลัส” ชายชาวอเมริกันอายุ 42 ปี เขามีน้ำหนักตัวที่มากมาตั้งแต่เด็ก เคยหนักถึง 136 กก. และยังพุ่งไปอีกถึง 294 กก. แต่ปัจจุบันเขาสามารถลดน้ำหนักลงได้เกือบครึ่งของน้ำหนักเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า “อยากมีชีวิตที่ยืนยาว”
โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา เล่าว่า ภาวะซึมเศร้าทำให้เขากินจุ และเนื่องจากการทานอาหารที่มากอย่างต่อเนื่อง ขนาดร่างกายของเขาจึงเปลี่ยนไป ค่อยๆ ห่างเหินจากครอบครัวและเพื่อนฝูง การใช้ชีวิตประจำของเขาแย่ลง นอกจากนี้น้ำหนักที่มากเกินไปยังทำให้เคลื่อนไหวเหมือนคนปกติได้ยาก ราวกับเขาจึงบังเอิญทำให้ชีวิตของตัวเองตกอยู่ในวงจรอุบาทว์อีกครั้ง
“แม้แต่การออกกำลังกายก็ยากสำหรับผม ผมมีอาการปวดเข่า ปวดเมื่อยตามร่างกาย และหายใจลำบาก ” เขาเล่า
นิโคลัส เล่าถึงจุดเปลี่ยนในการลดน้ำหนักซึ่งเกิดขึ้นในปี 2562 แพทย์เตือนเขาว่าร่างกายที่สูง 175 ซม.ของเขา ไม่สามารถรับน้ำหนักเกือบ 300 กิโลกรัมได้นานกว่านี้ น้ำหนักนี้เป็นเหมือน “ระเบิดเวลา” สำหรับสุขภาพของเขา คำเตือนของแพทย์ช่วยให้เขาตั้งสติได้และตระหนักว่าเขาต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองเสียใหม่
ด้วยกำลังใจจากแพทย์และครอบครัว เขาจึงตัดสินใจรักษาโรคซึมเศร้าและโรคอ้วน เริ่มต้นเส้นทางการลดน้ำหนักด้วยวิธีพื้นฐานที่สุดโดยหยุดทานอาหารขยะ เช่น เครื่องดื่มอัดลม อาหารทอด พาสต้า ข้าว และแป้งอื่นๆ เปลี่ยนเมนูประจำวันเป็นการกินผลไม้ ผัก และอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนแทน นอกจากปรับเปลี่ยนอาหารแล้ว เขายังหันมาออกกำลังกายมากขึ้นอีกด้วย
หลังจากปรับอาหารและออกกำลังกายมากว่า 3 ปี นิโคลัสก็กลายเป็นคนละคน ด้วยการลดน้ำหนักลงไปถึง 129 กก. สุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก เขาไม่มีอาการเจ็บปวดทางร่างกายอีกต่อไป และการทำงานของระบบทางเดินหายใจก็ดีขึ้นด้วย แต่เขาก็ยังไม่ได้น้ำหนักที่ต้องการ ดังนั้นจึงจะอดทนต่อไปจนถึงที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
“ผมต้องการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น ตอนนี้ยังไม่บรรลุเป้าหมายในการลดน้ำหนัก แต่เป็นเรื่องดีที่รู้ว่าเรื่องราวของผมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กับน้ำหนักของตัวเองได้” นิโคลัสกล่าว
นิโคลัสเปิดเผยด้วยว่า เขาลดน้ำหนักตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ยาลดน้ำหนักหรืออาหารเสริมใดๆ หรือแม้แต่การหันไปพึ่งศัลยกรรมพลาสติก “คุณต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แทนที่จะใช้ทางลัด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำตัวให้กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ” เขากล่าว
ทั้งนี้ นอกจากเส้นทางการลดน้ำหนักที่ยากลำบากและหนักหน่วงแล้ว นิโคลัสยังต้องเผชิญกับปัญหาผิวหนังส่วนเกินตามร่างกายหลังกระบวนการลดน้ำหนักอีกด้วย ดังนั้น พี่สาวของเขาจึงเริ่มงานระดมทุน GoFundMe โดยมีเป้าหมายในการระดมทุน 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 7 แสนบาท) สำหรับการผ่าตัดของนิโคลัส