“พ่อมดดำ” ปัดตบหัว ส.จ.เปี๊ยก กลางงานศพ เผยแค่ทักทายลูกน้องเก่า

พ่อมดดำ แจงหลังถูกรองนายก อบจ.แปดริ้ว แจ้งความ อ้างถูกตบกลางงานศพ ขณะลงพื้นที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เผยแค่ทักทายลูกน้องเก่า เชื่อจงใจปั่นกระแสเพื่อหวังผลทางการเมือง เตือนระวังอย่าแจ้งความเท็จ พร้อมฝากให้ตำรวจพื้นที่กวดขันกลุ่มมือปืน และอาวุธสงครามในพื้นที่ช่วงใกล้เลือกตั้ง

วันที่ 27 พ.ย.65 เวลา 14.36 น. ผู้สื่อข่าวได้รับประสานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง จากทีมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ถึงกรณีที่ นายวรรณา รอดพิทักษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมระบุว่าถูก นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 ตบศีรษะพร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ระหว่างที่พบกันในงานศพที่วัดทุ่งส่อหงษา หมู่ 11 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 นั้น นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้ชี้แจงว่า นายวรรณา หรือ ส.จ.เปี๊ยก เคยเป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของตน ที่ตามปกติเวลาที่ นายวรรณา มาหาตน ก็จะแสดงความเคารพกราบตักตน เพราะว่าตนเคยช่วยชีวิต นายวรรณาไว้ เมื่อครั้งถูกยิงเกือบถึงชีวิต

และยังดูแลครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก ที่มีหลายบ้านเป็นอย่างดี เมื่อพบหน้าครั้งนี้ก็เป็นตนที่เป็นฝ่ายเข้าไปทักทาย โดยได้ใช้มือเคาะไปที่หัวในลักษณะที่ไม่ได้รุนแรง แต่เป็นการสัพยอกไปว่า ได้ยินว่า ส.จ.เปี๊ยก ชอบพูดจาว่าร้ายตนก็เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ ส.จ.เปี๊ยก พยายามกล่าวหา เรื่องนี้สามารถสอบถามผู้ที่อยู่ในงานได้ว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร

เพราะทราบว่าในเฟซบุ๊กก็มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปคอมเมนท์ถึงข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อท้องถิ่นว่า เป็นเพียงการทักทายกันเท่านั้น ดังนั้นที่ ส.จ.เปี๊ยก บอกว่า จะไปแจ้งความนั้น ก็อาจจะเป็นการแจ้งความเท็จ “ต้องถาม ส.จ.เปี๊ยก ว่าเหตุที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ทำลายชื่อเสียงคนที่มีบุญคุณกับชีวิต และทุกๆครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก เป็นไปในลักษณะที่ชาวบ้านพูดกันและเรียกว่า “เนรคุณ” ใช่หรือไม่ เพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวที่รับใช้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและในด้านการเมืองหรือเปล่า” นายสุชาติ ระบุ

โดยนายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า หากถ้ามีการทำร้ายร่างกาย และต่อว่าหยาบคายใส่ ส.จ.เปี๊ยก จริง คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ส.จ.เปี๊ยก ไปร่วมงานนี้นั้น มีลูกน้องที่มีลักษณะคล้ายพวกมือปืน ขับรถติดตามอีก 3-4 คัน และขณะเกิดเหตุก็ยืนอยู่ด้านหลังงาน เฝ้าคอยระวังให้ ส.จ.เปี๊ยก อยู่ตลอด จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำร้ายร่างกายและข่มขู่ตามที่ส.จ.เปี๊ยก กล่าวหา

และท้ายที่สุดนี้ อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วยว่า ช่วงนี้ใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ ควรจะเข้มงวดกวดขันตรวจตราอาวุธปืน และอาวุธสงคราม ตลอดจนตรวจสอบประวัติมือปืนต่างๆ ให้เป็นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วย. นายสุชาติ ระบุในคำแถลงชี้แจง