“พิธา” เย้ย “บิ๊กตู่” ไร้ราคา-เข้ารวมไทยสร้างชาติ ก็แค่เหล้าเก่าในขวดใหม่

“พิธา” เย้ย “บิ๊กตู่” บอกไร้ราคา เข้ารวมไทยสร้างชาติก็แค่เหล้าเก่าในขวดใหม่ เตือนระวังตกหลุมที่ตัวเองเขียนมา ยันไม่ประมาทพลังดูด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาเล่นการเมืองเต็มตัว โดยจะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเปิดตัวในวันที่ 9 มกราคมนี้ จะทำให้ได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ เพราะมีเสียง ส.ว. 250 เสียง รออยู่ในสภาแล้ว ว่า ไร้ราคา เพราะเป็นระบอบเดิม ผู้เล่นเดิม เหล้าเก่าในขวดใหม่ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า จะมาในรูปแบบนี้ ซึ่งเห็นความแตกแยกชัดเจนมาเป็นปีแล้ว และถ้าย้อนหลังไปดูการกระทำที่ผ่านมา

ชัดเจนว่า ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ และแยกกันชัดเจนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะตกหลุมรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนมา ต้องมี ส.ส. ให้ครบ 25 คน ในระยะเวลาสั้นๆ พรรคจึงจะมีสิทธิ์เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แน่นอนว่าคงจะมีวิธีหรือการดึงอดีต ส.ส. จากพรรคอื่นมาสังกัด จึงต้องไม่ประมาทพลังดูด อย่าให้เป็นประชาธิปไตยแบบกล้วย เพื่อที่จะให้ได้ ส.ส.ครบ 25 คน เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ

พร้อมเชื่อว่า คนที่เป็นอำนาจนิยมและเผด็จการจะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้ตัวเองได้กลับมา แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนละครึ่ง เพียงแค่ 2 ปี โดยไม่คำนึงถึงการแก้ปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะหาเสียงอย่างไร นายพิธา ย้ำว่า ไม่ให้ราคา แต่ขณะเดียวกันจะไม่ประมาท เพราะต้องรู้เขารู้เรากับวิธีการของเขา

ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ ขั้ววพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค หลังเลือกตั้งอาจสวิงมาจับมือกับฝ่ายค้าน เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาขัดแย้งกันเอง นายพิธา กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย เป็นปกติที่จะมีการจับขั้ว ต้องรอดู แต่ในส่วนอุดมการพรรคอื่นตนพูดแทนไม่ได้

แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลมีอุดมการชัดเจนว่า ตนมีคำตอบ สำหรับประชาชน โดยวิธีการแบบใหม่ๆ ด้วยวิธีแบบก้าวไกล ซึ่งการรวมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ปัจจุบัน เป็นคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ส.ว. ไม่ควรจะขวาง แต่สิ่งที่ตนยืนยันมาตลอดกับสื่อฯ คือ ไม่ร่วม กลับพรรคทหารจำแลง ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้ซึ่งเป็นระบอบประยุทธ์ทั้งคู่ จะไม่จับมือร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน

เพราะไม่สามารถอยู่กับอุดมการณ์ในการสืบทอดอำนาจของทหารได้ จึงคิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านขณะนี้เป็นคำตอบ ที่ค่อนข้างชัดกับปัญหาความท้าทายของประเทศขณะนี้

ขณะพรรคแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น เพื่อไทย มีความจำเป็นจะต้องเติมเสียง จากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล จะรับได้หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า ความสัมพันธ์พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ยังมีพรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังประชาชาติ ตนคิดว่าเหนียวแน่นมาโดยตลอด

โดยพยายามโฟกัสที่ภาพใหญ่ ศัตรูตัวจริงและประชาชน คือใคร นั่นคือ ระบอบประยุทธ์ ดังนั้น มองที่ภาพใหญ่ ในการแก้ไขปัญหา คิดว่าได้แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ในการทำงานด้วย ปีนี้เป็นปีที่สี่ได้รู้จักกันมากขึ้น พร้อมยืนยันในส่วนของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคอื่นจะพูดอย่างไร ยังพอที่จะหาจุดร่วมในการทำงาน ร่วมกันในอนาคต เพื่อประเทศของเราได้