“ฝน ธนสุนธร” เปิดใจเรื่องรัก คบแฟนสาวหล่อ จากไม้กันหมากลายเป็นคนรู้ใจ

อีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อย่างสาว ฝน ธนสุนธร ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นคนสวน เพื่อวางแผนตัวเองเตรียมเกษียณงานในวงการเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด ฝน ธนสุนธร ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เผยเรื่องราวชีวิตในวงการอยู่ในช่วงขาลงเพราะมีนักร้องรุ่นใหม่แจ้งเกิดแทน พร้อมอัปเดตความรักกับแฟนสาวหล่อ

ดูแลกันมากี่ปีแล้ว ?
“ปีนี้ก็เข้าปีที่ 20 แล้ว เริ่มรู้จักกันมาก็คือเข้าวงการเขาเป็นแดนซ์เซอร์ ซึ่งตอนนั้นมีคนเข้ามาหาเราเยอะมาก เราเลยต้องการหาคนมาประกบเรา ให้เขาคอยดูแลเรา ก็เลยเอาเขามาเป็นไม้กันหมาตอนแรก เอาไปเอามาก็เลยพลาดท่าให้กับไม้กันหมา ตอนนี้ก็กลายเป็นคนรู้ใจเราที่เขาคอยดูแลเรา และเราจะต้องการอะไรอีกก็เลยอยู่ด้วยกันมา 20 ปี”

เคยคิดจะแต่งงานไหม ?
“เขาก็เคยจะขอเราแต่งงานแล้ว แต่มันเป็นช่วงโควิดพอดี ก็เลยบอกว่าถ้ามีโอกาสเขาจะจัดงานเล็กๆ ขอแบบคนในครอบครัว ไม่ได้จัดแบบใหญ่โต ซึ่งเขาก็ดูแลเราทุกอย่างเลย ในเรื่องของการบริหารจัดการทั้งหน้าบ้านยันหลังบ้าน แต่คนที่ทำกับข้าวก็จะเป็นเรา”

เห็นว่ามีลูกแล้วด้วย ?
“ตอนนี้มีลูกทั้งหมด 12 ตัว มันมาเรื่อยๆ เราก็เลี้ยงดูและมีกฎเหล็กของที่บ้านว่า ถ้าเธอจะตายต้องแก่ตายอย่างเดียว ห้ามเกิดอุบัติเหตุตายเด็ดขาด (หมายถึงน้องหมา) กฏของเราถ้าจะออกจากบ้านต้องให้น้องหมาอยู่ในกรงให้ครบ”

วางแผนเกษียณตัวเองเตรียมลาวงการ ?
“ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมตัวเป็นคนสวน แล้วเราก็จะเริ่มจากการหมักจุลินทรีย์ เอาจุลินทรีย์ไปย่อย ซึ่งเราไปเห็นแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านสอนให้การเกษตรทำไร่ทำสวน ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชา และหลายคนก็เคยอยู่รอดได้ด้วยการที่ช่วยเหลือตัวเอง ใช้วิธีนี้แหล่ะไม่พึ่งพาเศรษฐกิจโลก โควิดก็คือใครจะติดโควิดใครจะไม่มีข้าวกินใครจะไม่มีอะไรกิน แต่เรามีสวนเป็นของตัวเอง เรามีสวนพอเพียง เรามีห้องครัวเป็นของเราเอง เราก็ได้ปลูกสิ่งที่เป็นพืชล้มลุกพืชที่กินได้ก่อน อย่างเช่นมะละกอ ที่เราต้องซื้อก็อาจจะยังเป็นไข่เป็นปลา แต่ถ้าพริกกระเทียมปลูกเองได้เราก็ปลูกแล้ว อย่างการทำปุ๋ยเราก็ทำเองไส้เดือนก็เลี้ยงเอง เพื่อที่จะเอามูลไส้เดือนไปเป็นอาหารให้พืช ใบไม้แห้งเราก็เอามาหมักเป็นดิน”

มันประหยัดตามที่เราอยากให้เป็นไหม ?
“จริงค่ะ เมื่อเช้าก็ทำอาหารคลีนกินเอง ไม่ได้เงินเราสักบาทเดียวก็อิ่มมาถึงตอนนี้ เราก็ปรึกษาพี่เอ คนนั้นเขาก็คอยช่วย อย่างเช่นถ้าเห็นเราแบกอะไรหนักๆ เขาก็มาคอยช่วย แต่ถ้าให้คุ้ยไส้เดือน เขาไม่เอา”

เห็นว่ากินยาสมุนไพรด้วย ?
“เราก็ปลูกสมุนไพรเองด้วย ซึ่งมันดีจริง เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ต้องไปทำให้ตับไตเรามีปัญหา พอเรากินสมุนไพรและรู้ว่าสมุนไพรตัวนี้ช่วยดับตรงนี้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุเพราะจริงๆ เราไม่ได้ป่วยแล้วถึงกินยาแล้วกินยาให้เป็นอาหาร และกินอาหารให้เป็นยา เอาร่างกายเราแข็งแรง สิ่งที่เรากินเข้าไปมันก็จะไปต่อสู้กับเชื้อโรคทุกอย่างได้หมด”

เตรียมที่จะวางแผนเกษียณไว้ไหม ?
“นี่แหละค่ะ นี่คือการตื่นตัวลองผิดลองถูก ทำโน้นทำนี้เอาไว้ เรามีที่เอาไว้แล้วเพื่อที่จะทำสวน และน้องหลายคนก็อยากให้เราไปอยู่ด้วย แต่เราก็ต้องฝึกวิทยายุทธ์ตัวเองก่อนที่จะไปลงสนาม”

ตั้งแต่เกษียณเมื่อไหร่ ?
“จริงๆ ก็ยังไม่ได้อยากกำหนด เพราะยังรักวงการบันเทิงอยู่ ยังรักมรดกที่ปูให้อยู่ ก็อยากเจอ อยากเจอเหมือนกับว่าถึงแม้วันนึงเราจะไม่ได้อยู่เบื้องหน้าแต่เราอาจจะอยู่เบื้องหลัง อย่างเช่นเป็นคนสอนร้องเพลง ซึ่งเราก็จะยังไม่ทิ้งกัน แล้วก็ใจยังอยากมีความสุขอยู่กับสวรรค์บ้านนา ซึ่งเราก็วางแผนไว้ว่างานก็ต้องทำ แต่ชีวิตบั้นปลายเราก็ต้องมีความสุขซึ่งเราก็วางแผนไว้หมดแล้ว”

เด็กรุ่นใหม่เกิดขึ้นเยอะทำให้เราวางแผนชีวิต ?
“ก็ด้วยค่ะ ด้วยยุคของเรายุคของเขามันก็มีส่วนด้วย แต่เราก็ยังเชื่อว่าการที่เรายังเป็นเรา และเรายังเป็นไอดอลให้กับเขายังเป็นครูให้กับเขาเรา ก็เหมือนกับว่าเราพร้อมที่จะอยู่ตรงนี้เพื่อที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เราได้รับมาจากครูบาอาจารย์จากคุณปู่ให้เราได้ถ่ายทอดต่อ ซึ่งเรามีความสุขมาก เวลามีรุ่นน้องรุ่นหลานมาถามว่าร้องยังไง อันนี้ต้องสืบสานยังไงเราจะดีใจมาก และพร้อมที่จะให้อยากจะบอก แต่ถ้าใครเก่งแล้วเค้าก็เก่งแล้ว เราก็ไม่กล้าบอกใคร แต่ถ้าใครอยากจะได้ความรู้จากเราเราก็อยากถ่ายทอดสุดชีวิตเลย”