ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีหน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยเหลือ น้องตุ้ม อายุ 16 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ถูกบังคับข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั่งปัจจุบัน อายุ 16 ปี จนตั้งครรภ์คลอดลูกสาว ได้ ประมาณ 3 เดือน โดยทางตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดี กับแม่ อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย รวมถึงพ่อเลี้ยงหื่น อายุ 51 ปี ชาว ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ในข้อหาหนัก รวม 3 ข้อหา ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึง ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนโทษสูงสุดจำคุกถึง 50 ปี หรือถึงขั้นประหารชีวิต ดำเนินคดีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินคดีของศาลจังหวัดนครพนม
ความช่วยเหลือครอบครัวน้องตุ้ม หลังแม่กับพ่อเลี้ยงถูกดำเนินคดี ยังต้องมีภาระคือต้องดูแลลูกสาว อายุ 3 เดือน รวมถึงน้องสาว อายุ 13 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากพี่น้องทั้งหมด 3 คน ส่วนคนโตเป็นหญิงอายุ 27 ปี มีครอบครัว ทำงานรับจ้าง
ทั้งนี้ ยุติธรรมจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย อบต.นาขมิ้น และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ตั้งกองทุนรับบริจาคให้การช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิต ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ นำงบประมาณมาสนับสนุน สร้างบ้านพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือของผู้ใจบุญ ผ่าน บัญชีธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3995-3237-1 ชื่อบัญชีบริจาค กองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องตุ้ม ตำบลนาขมิ้น ปัจจุบันมียอดบริจาคมากกว่า 3 แสนบาท
ทางคณะกรรมการได้นำงบประมาณจากกองทุน ไปดำเนินการสร้างบ้านเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังมีปัญหาระบบไฟฟ้าเข้าไม่ถึง และส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา หากผู้ใจบุญยังต้องการบริจาคช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 063-531-9726 นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่
ด้าน ป้าของน้องตุ้ม เปิดเผยว่า รู้สึกตื้นตันใจ ดีใจมาก ที่มีหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ใจบุญ เข้ามาดูแลช่วยเหลือครอบครัวหลานสาว เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ทำได้เพียงประสานฝ่ายปกครอง ตำรวจ เข้าไปดูแล เกี่ยวกับปัญหายาเสพติด
สุดท้ายนำแม่น้องตุ้ม กับพ่อเลี้ยงไปดำเนินคดี บำบัดรักษา สุดท้ายกลับมาอีก จนกระทั่งล่าสุด ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยอมรับสงสารหลานสาว ทั้ง 3 คนมาก ต้องมาเจอปัญหาครอบครัว ทั้งที่ยากจนอยู่แล้ว บ้านไม่มีพักอาศัย มาถึงวันนี้เสมือนได้ชีวิตใหม่ ตนและหลานสาว ขอกราบขอบพระคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือ บริจาคเงินสมทบทุนสร้างบ้านหลังใหม่ ให้น้องได้อาศัยอยู่กับลูกสาว อายุ 3 เดือน รวมถึงน้องสาวอีกคน ที่กำลังเรียนหนังสือ
ตนยืนยันดูแลหลานสาวมาตลอด แต่สามารถดูแลช่วยเหลือได้ตามสภาพ เพราะไม่มีอาชีพทำไร่ทำนา ทำได้แค่ช่วยดูแลเลี้ยงลูกสาวน้องตุ้มที่คลอดออกมา ตอนนี้ได้บ้านใหม่ เหมือนได้ชีวิตใหม่ ขอยืนยันว่าจะดูแลหลานสาวเป็นอย่างดี และดูแลแนะนำให้เป็นคนดีของสังคม