ธารน้ำใจหลั่งไหล “สองแม่ลูกป่วยมะเร็ง” ขายข้าวไข่เจียวกลางดึก คนแห่ต่อคิวอุดหนุน

พลังโซเชียล ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ “สองแม่ลูกป่วยมะเร็ง” แต่สู้ชีวิต ตั้งโต๊ะริมทางขายข้าวไข่เจียวตอนกลางดึก

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ณฤชล มีวัฒนะกุล ได้โพสต์เรื่องรางของคุณแม่คนหนึ่งที่นั่งขายข้าวไข่เจียวริมถนน ช่วงเวลา 4 ทุ่มถึงตี 2 แต่ไม่ค่อยมีลูกค้า เลยแวะอุดหนุน และสอบถามจนทราบเรื่องราวที่สะเทือนใจว่า คนเป็นแม่ป่วยเป็นมะเร็งเมื่อ 4 ปีก่อน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอาลิ้นบางส่วนออก จนทำให้มีปัญหาทางด้านการพูด

หลังจากโพสต์ไม่กี่ชั่วโมงมีการแชร์ต่อกันไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนเกิดพลังโซเซียลที่นำพาธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือครอบครัวน้อง จนในคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้คนที่ทราบข่าวหลั่งไหลมาอุดหนุนข้าวไข่เจียวกันนับร้อยคนจนเจ้าตัว และครอบครัวยังรู้สึกตกใจ ข้าวที่หุงไป 5 หม้อ หมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

ล่าสุด วานนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถาม นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือ แนท อายุ 45 ปี  และภรรยา นางสาวผ่องศรี พรมจันทร์ หรือ ไอซ์ วัย 37 ปี ปัจจุบันมีลูกสองคน น้องพู ลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ และน้องพลอยใส ลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบ

ก่อนหน้านี้ครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้างดัง แต่เมื่อ 4 ปีก่อนมาพบว่าภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก และอาการลุกลามจนต้องทำการรักษา และต้องตัดลิ้นส่วนหนึ่งออกไปจนทำให้หลายเป็นผู้พิการทางการพูด และต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องหลายปี

ประกอบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ช่วงวิกฤติโควิดทำให้ต้องปิดร้านครอบครัวสูญเสียรายได้ จนแนทหัวหน้าครอบครัวก็ต้องรับภาระหนักที่สุดดิ้นรนหางานทำ จนต้องประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งสินค้า และอาหาร พร้อมกับเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่บ้านขายพวกข้าวผัด พะโล้ ข้าวไข่เจียวเพื่อหารายได้ในช่วงกลางวัน

และยังมาพบว่าลูกชายป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเช่นกัน และอยู่ในระยะที่ต้องควบคุมดูแลใกล้ชิด ปัจจุบันต้องได้รับการรตักษาต่อเนื่อง โชคดีที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท และได้พระมหากรุณาธิคุณรับเป็นคนไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ส่วนไอซ์ ผู้เป็นแม่ก็ต้องรับการรักษาไปพร้อมกัน จนปัจจุบันอาการเริ่มดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องการพูด รวมทั้งการกินอาหารที่มีปัญหาจากการผ่าตัดรักษา ปัจจุบันต้องกินอาหารที่เป็นของเหลวเท่านั้นจำพวกนม และอาหารเสริม

แต่ก็พอช่วยเหลือครอบครัว ขายอาหารที่บ้านในอำเภอสันทราย พร้อมกับดูแลลูกชายคนโต ที่ตอนนี้ต้องหยุดเรียนเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง แต่ทางโรงเรียนยังช่วยเปิดโอกาสให้เรียนออนไลน์ ไปก่อนตอนนี้ต้องใช้ยาจากต่างประเทศที่มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งทางสถาบันมะเร็งช่วยเหลืออยู่ทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ

หลังจากที่ขายอาหารที่บ้านในช่วงกลางวันแล้ว ไอซ์ก็ขอช่วยแนทเพื่อหารายได้เพิ่มด้วยการออกมาขายข้าวไข่เจียว ริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณแยกศาลเด็ก ขาเข้าเมือง ตั้งแต่ช่วงเวลา 4 ทุ่มไปจนถึงช่วงเช้ามืดของทุกวัน

บางวันก็ขายได้ไม่มาก บางวันก็ต้องเจอฝนตกช่วงนี้ เพราะที่ตั้งขายเป็นริมถนนไม่มีร่มหรือหลังคา บางวันก็จะพาลูกทั้ง 2 คนออกมาด้วย แต่บางวันก็จะให้เข้านอนก่อนแล้วแค่อยออกมาช่วยกันขายสองคนผัวเมีย

จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งมาอุดหนุนและแชร์เรื่องราวนี้ออกไป จนกลายเป็นที่มาของธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือ ทั้งออกมาช่วยกันอุดหนุนข้าวไข่เจียว บริจาคข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมัน รวมทั้งเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา

ซึ่งเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ก่อนเวลาเปิดร้าน 4 ทุ่ม พบว่ามีชาวเชียงใหม่ และคนที่ทราบข่าวเดินทางมาจากต่างจังหวัดต่างก็มารอร้าน ข้าวไข่เจียว “สองแม่ลูกสู้มะเร็ง” เปิด รวมทั้งกลุ่มไรเดอร์เซเว่น หลายสิบคนนัดรวมตัวกันมารอเพื่อที่จะช่วยอุดหนุนในคืนนี้

ทันทีที่ครอบครัวของแนท ไอซ์ และลูกทั้งสองคมมาถึงพบว่าหลายคนมาช่วยกันขนของ โต๊ะเก้าอี้ เตาแก๊ส กระทะ มาตั้ง เพื่อให้ครอบครัวนี้ได้เปิดร้านขาย และคนมารอคิวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำขายกันเองไม่ทัน แม้แต่น้องพลอยใสลูกสาววัย 7 ขวบ ก็ออกมาช่วยแม่ขาย โดยเป็นคนเตรียมกล่องข้าว ตักข้าวใส่กล่องไว้รอใส่ไข่เจียว บางช่วงก็ลงมาช่วยเตรียมไข่เจียวให้พ่อทอ

ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับคนที่มาช่วยอุดหนุนบางคนจึงกับจุกอกเมื่อเห็นภาพหนูน้อยมาช่วยแม่ขายของอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จนหลายคนที่ตั้งใจมาเป็นลูกค้าก็มาช่วยขาย บ้างตักข้าวเตรียมของ บ้างช่วยตีไข่ทอดไข่ หลายครอบครัวก็นำข้าวของอย่างข้างสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช รวมทั้งเงินช่วยเหลือมามอบให้กับครอบครัวนี้ด้วย

โดยผู้ที่มาช่วยเหลือครอบครัวนี้บางท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำธุระที่เชียงใหม่ ทราบข่าวผ่านทางโลกโซเชี่ยลก็เลยแวะมาอุดหนุนและให้กำลังใจ บางกลุ่มที่อยู่เชียงใหม่ก็มีการรวมรวบเงินมามอบให้น้องเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ทั้งเรื่องของทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย และยังพบว่าหลายคนก็กำลังหาช่องทางช่วยเหลือทั้งเรื่องอาชีพ และช่วยเหลือภาระของครอบครัวหลายๆ อย่างให้เบาบางลง

ด้าน นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือ แนท เปิดใจว่า รู้สึกตื้นตันและดีใจอย่างบอกไม่ถูกไม่เชื่อว่าพลังโซเชียลจะมากมายขนาดนี้ เพียงไม่กี่วันก็มีคนรู้จักมากมาย และมาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองจนทำอะไรไม่ค่อยจะถูกแล้ว

ที่สำคัญคือได้กำลังใจมหาศาลที่จะสู้ต่อไปเพื่อครอบครัว จะดูแลครอบครัวจนถึงนาทีสุดท้ายของลมหายใจทุกคน เช่นเดียวกันน้องไอซ์ภรรยา ก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ และความช่วยเหลือที่มีมาให้ครอบครัวมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปถึงที่สุด

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถอุดหนุนร้านอาหารที่ขายช่วงกลางวัน และส่งผ่านไรเดอร์ หรือมาอุดหนุนร้านไข่เจียวช่วงกลางคืน แต่ก็อาจจะไม่ได้มาขายทุกวัน เพราะบางวันภรรยาก็จะป่วยและไม่ค่อยมีแรงทำงานได้มากเหมือนปกติแล้ว