“ธรรมนัส” ชี้ ส.ว.โหวตรนายกฯ เป็นกลไกสภา ยังไม่คุย ส.ส.พรรคร่วม โหวต “พิธา” หรือไม่

“ธรรมนัส” ยังไม่คุย ส.ส.พรรคร่วมโหวต “พิธา” เป็นนายกฯ หรือไม่ ลั่น ส.ว.โหวตรนายกฯ เป็นกลไกของสภาฯ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่ ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรค พปชร.ต่อผลการเลือกตั้งว่า ส่วนตัวมักจะพูดเสมอว่าการเป็นนักการเมืองต้องเข้าใจบริบทการเมืองว่าสังคมเวลานี้ต้องการอะไร ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก

เมื่อถามว่าผลเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกล (กก.) ได้คะแนนมากที่สุด จะให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก่อนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนว่ามารยาททางการเมืองต้องปล่อยให้พรรค กก.เขาทำไปก่อน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรเราค่อยว่ากัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม ตนได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. บอกว่าเราต้องอยู่นิ่งๆ เพราะเราต้องยอมรับความเป็นจริง เสียงของประชาชนสะท้อนให้เห็นแล้วว่าเราต้องอยู่นิ่งๆ อย่างพวกตนเข้าสภาผู้แทนราษฎรต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนกลไกสภาจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไรเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา

เมื่อถามว่า ไม่ว่า พปชร.จะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่เต็มที่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราในฐานะนักการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน เมื่อประชาชนให้โอกาสพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล เราจึงต้องฟังว่าเขาทำได้หรือไม่ ไม่ควรไปแทรกแซง มารยาททางการเมืองต้องคำนึงถึงด้วย

เมื่อถามว่า หากถึงขั้นตอนโหวตเลือกนายกฯ พปชร.จะโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กก.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับ ส.ส. จึงต้องคุยกันก่อน โดยเฉพาะกับ พล.อ.ประวิตรที่ต้องฟังนโยบายว่ามีนโยบายอย่างไร เชื่อว่าที่ผ่านมา ว่าที่ ส.ส. 39 คนของพรรคที่สอบผ่าน ต้องมานั่งคุยกัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจการเมืองมาทำตรงนี้

เมื่อถามว่า สูตรการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลที่ไม่เอา 2 ลุง หากมีเงื่อนไขว่า พล.อ.ประวิตรลาออก จะทำให้ พปชร. มีโอกาสในการเข้าร่วมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนว่าในการจัดตั้งรัฐบาลมันเป็นเรื่องของสองสภา มันจำเป็นหรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตรจะลาออก ซึ่งไม่จำเป็น ตนว่าเราเป็นนักการเมืองต้องยอมรับว่าความจริงของสังคมเป็นอย่างไร และเมื่อความเป็นจริงของสังคมสะท้อนอย่างไรในสภาต้องมานั่งคุยกัน สภาต้องจบในสภา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นปัญหาสังคม

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่เป็นรัฐบาลมาก่อน ฝากข้อคิดอะไรให้พรรคก้าวไกลในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่กล้า เราเองต้องรู้ตัวว่าเราทำได้แค่นี้ ฟังเสียงส่วนใหญ่ว่าเป็นอย่างไรก่อน แต่ตนฝากเลยว่าการเป็นนักการเมือง การเมืองท้องถิ่นถือว่าเป็นรากเหง้าของการเมือง หลายท่านที่สอบตกก็น่าจะรู้ตัวเองว่าพลาดเพราะอะไร

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ กับการที่ ส.ว.ระบุว่าการจะจัดตั้งรัฐบาลต้องรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง จะได้ไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มันเป็นกลไกของสภา ต้องรวมเสียง ส.ส.ให้ได้เยอะที่สุดก่อน ไปผลักดันเป็นภาระ ส.ว.มันไม่ได้ เมื่อถามอีกว่า มีแผนสำรองหรือไม่ในกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี มีอย่างเดียวคือ ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก่อนในฐานะเป็น ส.ส.ของคนพะเยา และต้องทำอะไรในพรรคให้ดีขึ้นกว่านี้

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จริง มีโอกาสที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลกันในขั้วเดิม ตัว ร.อ.ธรรมนัส จะทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับตนเรื่องการเมืองมันจบไปแล้ว วาระของตนก็จบไปแล้ว ก็สรุปว่าลืมหมดแล้ว ตอนนี้ไม่คิดเรื่องอื่น คิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติดีขึ้น โดยเฉพาะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตอนนี้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ พี่น้องส่วนใหญ่ฐานรากเดือดร้อนอยู่จะทำอย่างไร เราอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป

เมื่อถามว่า พอเห็นผลเลือกตั้ง ได้มีการหารือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มีการหารืออะไรกับพรรคเพื่อไทย เพราะเพิ่งกลับมาจาก จ.พะเยา ไม่ได้คุยกับใครเลย