ตำรวจขับรถกลับด่านตรวจ ชนรถบรรทุกเสาไฟฟ้า กระบะตราโล่พุ่งข้างทาง ดับ 3 นาย

ตำรวจเพิ่งไปส่งผู้ต้องหาแล้วขับกลับด่านตรวจ ชนรถบรรทุกเสาไฟฟ้า กระบะตราโล่พุ่งข้างทาง ดับสลด 3 นาย

(16 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 19.15 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายเชียงราย-เชียงแสน พื้นที่หมู่บ้านบ่อก้าง ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน จึงไปตรวจสอบพบเป็นถนน 4 ช่องจราจรขาขึ้นจะไปทาง อ.เชียงแสน โดยรถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูของทางราชการตำรวจสังกัด สภ.แม่จัน สภาพพุ่งลงไปซุกอยู่ในพงหญ้าและต้นไม้ข้างทาง โดยที่ด้านบนของรถถูกชนจนเสียหายยับเยิน

ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าของเอกชนรายหนึ่งซึ่งมีพ่วงท้ายที่บรรทุกเสาไฟฟ้าขนาดยาวมาด้วยหลายต้น สภาพที่เสาไฟต้นหนึ่งหักครึ่งรถจอดขวางถนนกีดขวางผู้สัญจรผ่านไปมาให้ใช้ถนน 2 ช่องจราจรขาล่อง สวนทางกันเป็นการชั่วคราว

จากการตรวจสอบในรถยนต์กระบะของ สภ.แม่จัน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถจำนวน 3 นาย โดยเป็นพลขับและตำรวจที่นั่งโดยสารข้างคนขับชื่อว่า ด.ต.เรืองฤทธิ์ ธุวะคำ และ ด.ต.จงกล ศรีกันทะ ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุและที่เบาะด้านหลังรถมี ด.ต.พิชยพล จันทร์ต๊ะ นั่งโดยสารอยู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงได้ประสานรถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค อ.เมืองเชียงราย แต่เนื่องจากบาดแผลสาหัสจึงเสียชีวิตตามมาอีกนาย ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 3 นาย ส่วนรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าของเอกชนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย สังกัดสายตรวจประจำอยู่ด่านตรวจ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน และก่อนเกิดเหตุได้นำผู้ต้องหาไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหลังจากนั้นได้เดินทางจะกลับไปประจำหน้าที่ที่ด่านตรวจตามปกติ แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าที่อยู่ตรงส่วนพ่วงจนทำให้ด้านบนของรถเสียหายยับเยินและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในรถเสียชีวิตทั้งหมด ทั้งนี้ที่เกิดเหตุพบว่าส่วนบรรทุกเสาไฟฟ้ามีสภาพเกือบขวางถนนและมีเสาไฟฟ้าที่ถูกชนตกกระจัดกระจาย

คาดว่าก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกเสาไฟฟ้าได้ขับเลี้ยวจะออกจากผิวจราจร แต่ส่วนท้ายที่เป็นเสาไฟฟ้ายังยื่นอยู่กลางถนน ทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับตามท้ายมาชนเข้าอย่างรุนแรงดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป