“ชูวิทย์” แฉผู้มีอิทธิพลแอบซ่อนมาเฟียจีน “ตู้ห่าว” พบเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจอดในที่หวงห้าม

“ชูวิทย์” แฉอีกผู้มีอิทธิพลไทยแอบซ่อน “ตู้ห่าว” มาเฟียจีนไว้ หลังหายตัวเงียบ วอนตำรวจติดตามตัวสอบเส้นทางการเงิน

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองไทยผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจสีเทา แถลงข่าวเปิดหลักฐานเกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา ที่นายชูวิทย์เคยเปิดโปงไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมเปิดเส้นทางการบินแบบผิดปกติของนายตู้ห่าว โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า ปัจจุบันนายตู้ห่าว หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และยังไม่มีการถูกออกหมายจับ หรือจับกุมมาดำเนินคดีแต่อย่างใด

ทั้งๆ ที่เป็นตัวการใหญ่ที่สุดในกลุ่มนายทุนจีนสีเทา ซึ่งจากข้อมูลของตนเอง ก็เชื่อว่านายตู้ห่าว ยังคงอยู่ในประเทศไทย โดยกบดานอยู่กับผู้มีอิทธิพลชาวไทยรายหนึ่ง เนื่องจากนายตู้ห่าวเป็นมาเฟียที่มีทรัพย์สินหลายพันล้าน และกุมความลับของผู้มีอิทธิพลนักการเมืองจำนวนมากที่นำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริต

นำมาให้นายตู้ห่าวฟอกเงินโดยการลงทุนในธุรกิจผิดกฎหมาย หากนายตู้ห่าวถูกจับกุม ข้อมูลดังกล่าวก็อาจจะถูกเปิดเผย และส่งผลกับผู้ที่มีส่วนได้เสียในครั้งนี้ ส่วนหลานชายของนายตู้ห่าว มีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปแล้ว

ทั้งนี้นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่าจากเบาะแสเกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ทของนายตู้ห่าว พบว่าเครื่องบินเจ็ทลำดังกล่าวจอดอยู่ที่ Sunny604 หรือฝูงบินเศรษฐี ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้าม จะต้องได้รับอนุญาต อยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน

แต่กลับจอดได้โดยไม่มีใบอนุญาต PPL จนกระทั่งวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าคนขับเครื่องบินอักษรย่อ ต.เต่า (โต้ง) ได้นำเครื่องบินไปจอดที่หัวหินและภูเก็ต โดยอ้างว่านำไปซ่อมบำรุงเพื่อไม่ให้ถูกตรวจสอบว่าใครเป็นคนอนุญาตให้จอดไว้ที่เขตหวงห้ามดังกล่าว

นอกจากนี้นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายตู้ห่าวบางส่วน เช่น รถโรลส์-รอยซ์ และอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งรวมหลายพันล้าน ซึ่งใช้ชื่อนอมินีที่เป็นญาติของนานตู้ห่าวมาเป็นเจ้าของ

โดยตนเองเคยมอบให้กับนายตำรวจระดังสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็เงียบเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนที่มีอำนาจและอิทธิพล จึงต้องการแถลงเปิดโปงข้อมูลเพื่อเร่งรัดไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่หากตำรวจยังล่าช้า ทรัพย์สินต่างๆ

เหล่านี้อาจถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่อื่นได้ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ดังนั้นในสัปดาห์หน้านายชูวิทย์จะนำบัญชีธนาคาร เส้นทางการเงิน และรายชื่อนอมินีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาเปิดเผย และสัปดาห์หน้าก็จะไปยื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว