จับตาความเคลื่อนไหว “แรมโบ้ – ศรัณย์วุฒิ” หนีหายออกจากหน้าสื่อ หลังศึกเลือกตั้ง

กำลังจะครบ 7 วันแล้ว สำหรับชัยชนะแบบถล่มทลายในศึกเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ของพรรคก้าวไกล บรรยากาศการเฉลิมฉลอง ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง สีส้มทั้งแผ่นดิน พร้อมๆกับ สีสันของผู้ชนะที่เริ่มทำงานเพื่อประชาชนกันแล้ว แม้จะยังไม่มีการรับรองจาก กกต.เป็นทางการ

ขณะผู้แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง ตามชื่อเพลง และผู้แพ้หลายคนก็สแดงสปิริต น้ำใจนักกีฬา ที่น่าชื่นชม ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์หรือแม้แต่อนุทิน ชาญวีรกุล แต่ก็มีหลายคน ที่เลือกหลบหน้า หนีหายเข้ากลีบเมฆไปเลย ไปทำใจต่อความปราชัยในครั้งนี้ ชนิดไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในสื่อหลัก หรือสังคมออนไลน์ของตัวเอง จนเข้าข่ายผิดปกติและอาจต้องแจ้งมูลนิธิกระจกเงา เพื่อตามหา กันต่อไป

คนแรกที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คือ “แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งดูแลภาคอีสาน ที่คุยโวว่าพรรคจะได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำในพื้นที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยเฉพาะโคราช แต่ต้องอกหักอย่างแรง เพราะไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมไทยสร้างชาติก็ได้แค่ 13 ที่นั่ง ไม่ถึงลำดับ 15 ของ “แรมโบ้”ด้วย และเจ้าตัวก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย

คนต่อมาที่ต้องตามหาคือ “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” อดีต ส.ส.เครางาม แห่งเมืองพระยาพิชัยดาบหัก ที่โชว์ควงดาบ ลงสมัคร ส.ส.พร้อมลูกสาว ประกาศเป็นโจรกลับใจ จะปกป้อง”ลุงตู่” หวังกวาด 3 ที่นั่งจังหวัดอุตรดิตถ์ พา “ลุงตู่” เป็นนายกฯต่ออีกสมัย แต่ผลที่ได้คือความผิดหวัง พ่ายแพ้พรรคเก่าของตัวเองทั้ง 3 เขต สอบตกทั้งครอบครัว และหายหน้าหายตาไปเลย ตั้งแต่วันเลือกตั้ง จนถึงวันนี้ก็ 7 วันพอดีใครพบเห็นก็ช่วยบอกด้วยละกัน

ปิดท้ายกันที่หายแบบเป็นครอบครัว คือ “ตระกูลรัตนเศรษฐ์” ที่มี “วิรัช” เป็นผู้นำ และมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขุนพลคู่ใจ”ลุงป้อม” ส่งคนในบ้าน ทั้งภรรยา ลูกชาย และลูกสะใภ้รวมถึงน้องเมีย เกือบ 10 ชีวิต ลงสนามแบ่งเขตที่โคราช และแบบบัญชีรายชื่อ โดยคาดหวังจะพาเหรดเข้าสภากันทั้งโขยง ดัน”บิ๊กป้อม”เป็นนายกฯ แต่ผลออกมาคือ พ่ายแพ้เรียบวุธ สอบตกทั้งตระกูลและหายหน้าหายตาไปตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้

โดยความเคลื่อนไหวสุดท้ายคือ ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้สมัคร ส.ส.ของรวมไทยสร้างชาติ บอกว่า “บิ๊กตู่” ประทับใจซาบซึ้งในหัวใจของทุกคน ชื่นชมที่มีจิตวิญญาณเสียสละ ขอให้ทำงานอุทิศตนเพื่อประเทศชาติต่อไปเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 1 วันก่อนจะถึงวันหย่อนบัตร และเมื่อผลเลือกตั้งออกมา ก็หายเงียบไปเลย จนถึงตอนนี้ ทั้งที่ก่อนหน้า จะมาปรากฏโฉมหน้าต่อสื่อเป็นประจำ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล และสถานที่อื่นๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์และพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเคลื่อนไหว