จากกรณี เมื่อเวลา 17.50 น.ของวันที่ 16 พ.ค.66 ได้ เกิดอุบัติเหตุ กระบะ เฉี่ยวชน จยย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ขาเข้าสัตหีบ ตรงข้างหมู่นภาภัณฑ์แลนด์ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปช่วยเหลือ ก่อนนำคนเจ็บทั้งหมดส่ง โรงพยายาบสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
โดยขณะช่วยเหลือคนเจ็บนั้น ได้มีทหารเรือ เข้ามาแสดงท่าที และวาจาไม่สุภาพต่อการทำงาน ของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ด้วยคำพูดหยาบคายพร้อมให้ของลับ กับเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องเข้ามาพูดคุยให้ทั้งคู่แยกย้ายกันไป
ก่อนที่ นาย มงคลชัย แสงศิลา อายุ 37 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานคนดังกล่าวจะได้มีการโพสต์ Facebook พร้อมข้อความ วีดีโอและภาพนิ่ง ขณะที่ทหารนายนี้ เข้ามาต่อว่า และให้ของลับ ในกริยาและวาจาไม่สุภาพ หลังจากนั้นก็ได้มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดที่ วันที่ 18 พ.ค. 66 ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้นำ นายทหารเรือดังกล่าว (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เดินทางนำกระเช้าเข้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ประธานมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน พร้อมด้วย นายพิชิต เกียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน นาย มงคลชัย แสงศิลา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ที่ถูกทหารคนดังกล่าวให้ของลับ ณ มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยผู้บังคับบัญชา ได้กล่าวขอโทษถึงพฤติกรรม กำลังพลใต้สังกัด กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ ทหารคนดังกล่าวได้ลงไปดูและสงสัยการทำงานของกู้ภัย ว่าทำไหม ไม่รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จึงได้มีปากเสียงกัน ซึ่งทหารคนดังกล่าวไม่ได้มีเจตนารมณ์ จะไปหาเรื่องหรือด่ากู้ภัยแต่อย่างใด เพียงแค่อยากให้ผู้บาดเจ็บไปถึงโรงพยาบาล ให้เร็วที่สุด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ได้มีการเรียกทหารคนดังกล่าวมาสอบถามและตักเตือนแล้ว ส่วนโทษทางวินัย จะได้มีการสอบสวน ตามระเบียบทางราชการต่อไป
ด้าน นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ประธานมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน กล่าวว่า ทางหน่วยกู้ภัย ได้ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ชาวสัตหีบ มานานกว่า 30 ปี โดยเจ้าหน้าที่ ที่ออกไปช่วยเหลือคนเจ็บ ทุกคนต้องได้รับการอบรมจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ถึงจะออกไปช่วยเหลือคนเจ็บได้ โดยการช่วยเหลือคนเจ็บมีขั้นตอน อยู่แล้ว ว่าต้องทำอะไร ถ้าเกินขีดความสามารถก็ต้องประสาน ขอกำลังสนับสนุน หรือทีมแพทย์จาก โรงพยายาล เข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้การเคลื่อนย้านผู้บาดเจ็บได้ รวดเร็วและปลอดภัย เพื่อลดการสูญเสีย ของผู้บาดเจ็บ
ซึ่งวันนี้ทางทหารได้เข้ามาขอโทษ เราก็พร้อมน้อมรับคำขอโทษ เพราะทางหน่วยกู้ภัยของเรา ก็ปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่สัตหีบอยู่แล้ว ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ร่วมถึงการฝึกร่วมกู้ภัยในหลายๆครั้ง แต่ขอให้เข้าใจการทำงานของกู้ภัยด้วย ทุกหน่วยงานมีขั้นตอนในการช่วยเหลือคนเจ็บและผู้บาดเจ็บไม่เหมือนกัน ตามที่ได้รับการฝึกฝนมา