ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ซึ่งเคยเป็นทนายความให้คุณแม่ของแตงโม ก่อนจะถูกคุณแม๊สั่งถอดแล้วกลับไปใช้ทนายความคนเดิม ล่าสุดมีรายงานว่า ทนายกฤษณะ รับหน้าที่ว่าความในคดีให้ แอม ไซยาไนด์ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะในเอกสารแต่งตั้งทนายคนใหม่ และถอดถอนทนายเดิม คือ ทนายพัช ธันย์นิชา ยังเป็นวันเดียวกันกับที่ทนายพัช ให้สัมภาษณ์กับหลายสื่อในเรื่องคดีอยู่เลย
ล่าสุดทนายกฤษณะ ได้ยืนยันว่า ตนเป็นทนายให้ แอม จริง เมื่อวานตนเข้าไปเยี่ยม แอม ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่ง แอม ยังยืนยันให้ตนเป็นทนายเช่นเดิม แต่ตนได้ยืนยันกับ แอม ว่า จะต้องรับสารภาพคดี น้องก้อย พร้อมกับโชว์เอกสารใบแต่งตั้งทนายความจาก แอม ลงวันที่ 16 พ.ค.2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ระบุว่ายังเป็นทนายอยู่เหมือนกัน
ทนายกฤษณะ เปิดเผยว่า ล่าสุด แอม เบี่ยงเบนประเด็น คงลืมคำพูดเดิม และบอกเรื่องลูกกับตนว่า คือลูกของใคร ใครคือคนแนะนำให้ส่งพัสดุ อีกทั้งยังบอกว่าผู้ที่รับ รู้เรื่องที่ส่งพัสดุ ถ้าไม่รู้จะทราบที่อยู่ได้อย่างไร แอม เริ่มซักทอดไปที่พยานที่รับพัสดุ
เมื่อวานเข้าไป แอม บอกไม่เคยคิดจะถอนตนจากการเป็นทนายเลย ยังให้ช่วยต่อไปทุกคดี แต่ตนมีข้อแม้ว่าคดีก้อยต้องรับสารภาพเท่านั้น ถึงจะช่วยคดีอื่น แต่ขอดูสำนวนก่อน
ส่วน แอม สงสัยว่าทนายคนแรกโดนแจ้งข้อกล่าวหาจะเป็นทนายให้ แอม ได้หรือไม่ ตนตอบได้แค่ว่า แล้วศาลจะเชื่อไหมล่ะคิดเอาเองว่า จะรับหรือจะสู้ แต่ถ้าทนายคนแรกสู้ ตนจะนั่งดูเฉยๆ แล้วถอนตัว
ทนายกฤษณะ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น แอม ยังไม่ยอมรับสารภาพ ซึ่งขณะคุยกับตน แอมร้องไห้ตลอด และห่วงคนข้างนอกมาก แต่สภาพร่างกายเมื่อวานซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักลดลงเกือบ 10 กิโลกรัม ความดันขึ้นสูง แต่หมอได้ให้ยาลดความดันแล้ว และคิดฆ่าตัวตายตลอดเวลา ส่วนลูกในท้องมีอาการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ ซึ่งตนยืนยันจะเป็นทนายเช่นเดิม แต่มีเงื่อนไขคือต้องรับสารภาพเท่านั้น แต่เจ้าตัวขอคิดทบทวนอีกครั้งก่อน
ทุกถ้อยคำพูดของแอม ผมจะรับฟังอย่างระมัดระวังเกรงจะเป็นการให้ร้ายผู้อื่น ที่สำคัญเขาห่วงแก้วมาก และบอกไม่อยากให้แก้วต้องมาเกี่ยวข้อง ทนายกฤษณะ กล่าว