ไม่มีการช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนอีกต่อไป – นายกรัฐมนตรีของประเทศสมาชิก EU ใหม่

นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟีโก้ของสโลวาเกียสัญญาว่าจะยุติการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนในความขัดแย้งกับรัสเซีย และจะผลักดันให้มีการหยุดยิงทันที

นายกรัฐมนตรีใหม่ของสโลวาเกีย คือ นายโรเบิร์ต ฟีโก้ ได้สัญญาว่าจะยุติการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนในความขัดแย้งกับรัสเซีย และจะผลักดันให้มีการหยุดยิงทันที

ในการประชุมคณะกรรมการด้านการต่างประเทศของสภาในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายฟีโก้ได้กล่าวว่า “ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมจะสนับสนุนให้มีการช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนเป็นศูนย์” โดยอธิบายว่า “การหยุดยิงทันทีเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสําหรับยูเครน”

นายฟีโก้ได้ร้องขอให้สหภาพยุโรปเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ส่งอาวุธ” เป็น “ผู้สร้างสันติภาพ” โดยอ้างว่ายูเครนและรัสเซียจะได้รับประโยชน์มากกว่าหากเจรจาสันติภาพกันเป็นเวลา 10 ปีข้างหน้า ไม่ใช่ฆ่าตัวตายโดยไม่มีผลลัพธ์

เขายังกล่าวว่าการที่รัสเซียจะถอนตัวออกจากดินแดนที่ผนวกเข้ามาใหม่ คือ แหลมคริม เขตปกครองตนเองดอนเนตสค์ และภูมิภาคคเชร์สอนและซาโปริซญา เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และเป็นเรื่องที่ไม่ควรคาดหวังว่าจะสามารถกดดันประเทศมหาอํานาจนิวเคลียร์ได้ด้วยอาวุธประเภททั่วไป

นายกรัฐมนตรีใหม่ยังกล่าวอีกว่า ในระหว่างการเยือนกรุงบรัสเซลส์เป็นเวลา 2 วันของเขา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรปที่เน้นเรื่องความขัดแย้งในยูเครน เขาจะปฏิเสธข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการลงโทษต่อรัสเซียที่เสนอโดยประเทศบอลติกหากไม่มีการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสโลวาเกียอย่างละเอียดรอบคอบ “ถ้ามาตรการลงโทษนั้นจะเป็นอันตรายต่อเรา ผมจะไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องสนับสนุน” เขากล่าว

นายฟีโก้ซึ่งเข้ารับตําแหน่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยังยืนยันตําแหน่งของเขาว่า ความขัดแย้งในยูเครนในที่สุดก็เกิดจาก “การโจมตีของชาวยูเครนฝ่ายฟาสซิสต์ต่อประชากรพลเมืองชาวรัสเซีย”

ตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สโลวาเกียเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนยูเครนมากที่สุด โดยส่งการสนับสนุนทางทหารและส่งเสริมมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ประเทศดังกล่าวได้หยุดการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนเป็นการเป็นทางการในต้นเดือนนี้หลังจากพรรคสังคมประชาธิปไตยสโลวัก (SMER-SD) ของนายฟีโก้ชนะการเลือกตั้งสภาของสโลวาเกียในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

พรรคการเมืองดังกล่าวได้สัญญาว่า “จะไม่ส่งกระสุนปืนเดี่ยวเพื่อยูเครน” และได้คัดค้านการขยายความตึงเครียดในความสัมพันธ์กับรัสเซียต่อไป

“สโลวาเกียและประชาชนสโลวาเกียมีปัญหาสําคัญกว่ายูเครน” นายฟีโก้กล่าวหลังชัยชนะของพรรคของเขา โดยเพิ่มว่าบราติสลาวาจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับยูเครนเท่านั้น