นพ.สมรส พงศ์ละไม แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยกเคสกรณีของผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากสุภาพบุรุษ น่าเชื่อถือ กลายเป็นคนโกหก ตอแหล และมีเมียน้อยถึง 4 คน หยุดตัวเองไม่ได้ เพราะอาการจากเนื้องอกในสมอง โดย นพ.สมรส ระบุว่า
คนไข้เดิมเป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ พูดจาน่าเชื่อถือ แต่ 1 เดือนที่ผ่านมาเปลี่ยนไปชัดเจน กลายเป็นพูดไม่สมเหตุผล ตรรกะวิบัติ กลับกลอก โกหก ตอแหล (behavioral change)
ลืมบ่อย จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดอะไรไว้ (memory impaired) คำนวนเลขบวกลบง่ายๆก็ผิด (calculation deficit)
ระแวงว่าภรรยาตนเองจะมีชู้ ทั้งๆที่ภรรยาเป็นคนซื่อสัตย์มาก ญาติๆทุกคนก็รู้ คนไข้เลยไปหาสาวคนใหม่เพิ่มอีก 4 คน หยุดตัวเองไม่ได้ ไม่สนใจใคร ไม่รู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนเพราะคำพูดหรือการกระทำของตนเองเลย (loss of empathy)
ตรวจร่างกาย ไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาทชัดเจน คนไข้แค่ชอบยิ้มบ่อยๆ (เหมือน Euphoria นิดๆ) และเวลาตรวจมือคนไข้ ชอบเอามือมาเช็คแฮนด์หมอบ่อยๆ ยับยั้งตัวเองไม่ได้ (disinhibition)
ตรวจเลือดพื้นฐาน อยู่ในเกณฑ์ปกติ ตรวจสภาพสมองเบื้องต้นด้วยแบบสอบถาม MMSE คะแนนไม่ได้แย่มาก (26/30) แต่สแกนสมอง พบเนื้องอกที่สมองส่วนหน้า
บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า
– เนื้องอกที่สมองส่วนหน้ามาด้วยประวัติข้างบนได้ ถ้าความจำเสื่อมเร็ว พฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก ยิ่งถ้ามีปัญหาปัสสาวะกลั้นไม่ค่อยได้ ควรรีบพบคุณหมอสมองใกล้บ้าน
– เนื้องอกถ้าไม่รุกราน ตัดทิ้ง คนไข้สามารถดีขึ้นได้ แล้วมาฟื้นฟูสมองต่อเนื่องให้กลับมาได้มากที่สุด เดี๋ยวนี้เรามีเทคโนโลยีดีๆมากขึ้น
– แต่ถ้าเป็นมะเร็งเนื้อร้ายระยะรุกราน ก็ต้องรักษายาวๆต่อไป
ความยากคือ คนไข้มักไม่รู้ตัวว่านิสัยเปลี่ยนไป ไม่ยอมมาโรงพยาบาล อาละวาด ดื้อ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่หนักใจของญาติๆอย่างยิ่ง